ปลูกถั่วฝักยาวแบบอินทรีย์

ถั่วฝักยาว สามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินแทบจะทุกชนิด แต่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการปลูกแบบอินทรีย์คือ ในดินร่วนปนทราย ที่มีค่า pH อยู่ที่ระหว่าง 5.5-6 หน่วย

ถั่วชนิดนี้เป็นพืชที่มีระบบรากละเอียดอ่อน การเตรียมดินก่อนปลูกอย่างเหมาะสม จะช่วยให้การเติบโตของลำต้นสมบูรณ์และสม่ำเสมอ ดังนั้น เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีและไม่พึ่งพาเคมีช่วย จึงต้องไปเน้นในเรื่องของการเตรียมดินปลูกไว้เป็นอันดับแรก

การเตรียมดินก่อนการปลูกถั่วฝักยาวนั้น หากปลูกลงแปลง ต้องไถพรวนหน้าดินโดยมีความลึกประมาณ 6-8 นิ้ว แล้วตากดินทิ้งไว้ประมาณ 1 อาทิตย์ เพื่อทำลายเชื่อโรคและไข่ของแมลงต่างๆ ที่เป็นศัตรูพืช และควรเก็บเศษวัชพืชออกจากแปลงให้หมด แล้วค่อยผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไป กำหนดระยะห่างของต้นให้ไม่เกินที่ 1 เมตร

เมื่อเตรียมดินและกำหนดขนาดระยะปลูกแล้ว จากนั้น ให้ทำการปรับปรุงโครงสร้างดินให้ดีขึ้น ให้ไถคราดหน้าดิน และใส่ ปุ๋ยคอก หรือ ปุ๋ยหมัก ลงไปพร้อมกันในระหว่างไถคราดได้เลย เสร็จแล้วยกร่อง สำหรับปลูกโดยมีความกว้างประมาณ 1-1.2 เมตร ความยาวให้เหมาะสมกับแปลงปลูก

เตรียมร่องระหว่างแปลงสำหรับเดินเข้าออกประมาณ ไม่เกิน 1 เมตร สำหรับแปลงดินที่ยังไม่เคยปลูกมาก่อนควรนำดินมาวัดค่า pH และวิเคราะห์เพื่อให้ทราบถึงจำนวนแร่ธาตุต่างๆ ในดินเพื่อจะได้ปรับปรุงบำรุงดินให้เหมาะสมในการปลูกต่อไป เมื่อเตรียมดินได้ที่แล้วจึงเป็นขั้นตอนของการปลูกโดยละเอียดดังนี้

ปลูกถั่วฝักยาว

การปลูกถั่วฝักยาวแบบอินทรีย์ ให้ผลผลิตดีกว่า

1. เตรียมเมล็ดพันธุ์ถั่วฝักยาว เนื้อที่ 1 ไร่ควรใช้เมล็ดพันธุ์ 3-4 กิโลกรัม คัดเมล็ดพันธุ์ที่ดี ไม่แตกหรือมีจำหนิ หรือมีสภาพไม่เหมาะกับการปลูกออกแยกไว้แล้วนำไปคลุกด้วยสารเคมีป้องกันกำจัดแมลงก่อนเพื่อป้องกันการโดนทำลาย

2. เตรียมหลุมปลูก ให้ได้ระยะห่างระหว่างแถว 0.8-1เมตร ระหว่างหลุมต่อหลุม 0.5 เมตร (หรือแล้วแต่พิจารณา) โดยให้หลุมลึกประมาณ 5-6 นิ้ว ใช้ใบคูน หรือใบหางนกยูงแห้ง โรยก้นหลุม 1 กำมือ แล้วใช้ปุ๋ยเคมีสูตรที่เหมาะสมกับถั่วฝักยาว เช่น 15-15-15, 13-13-21,12-24-12, 5-10-5 หรือ 6-12-12 ใส่หลุมละ 1/2 ช้อนแกง (10-15 กรัม) คลุกเคล้าให้เข้ากันปิดทับด้วยดินบางๆ

3. หยอดเมล็ดลงหลุม หลุมละ 3-4 เม็ดแล้วกลบดินลงหลุมประมาณ 5 เซนติเมตรแล้วรดน้ำทันที การให้น้ำระยะ 1-7 วัน ควรให้น้ำทุกวัน วันละ 1 ครั้ง ทั้งนี้ให้พิจารณาสภาพภูมิอากาศ และสภาพดินด้วย

4. ดูแลต้นกล้า ประมาณ 1 อาทิตย์ เมล็ดจะเริ่มงอกให้เห็นยอดอ่อน เมื่อมีใบจริงประมาณ 3-4 ใบให้ถอนแยกคัดเอาเฉพาะต้นที่แข็งแรงเอาไว้ 2 ต้นต่อ 1 หลุม และทำการกำจัดวัชพืชบริเวณรอบๆ หลุมให้หมด นำใบคูน หรือใบหางนกยูงแห้ง หรือแกลบโรบกลบรอบโคนหลุมหนาประมาณ 1 นิ้ว แล้วรดน้ำให้ฉ่ำ

เนื่องจากถั่วฝักยาว เป็นพืชที่ต้องการการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด การดูแลรักษาที่ดีจะมีผลต่อปริมาณและคุณภาพของผลผลิตเป็นอย่างมาก จึงแนะนำขั้นตอนการดูแลรักษาดังนี้ (สามารถดัดแปลงใช้กับวิธี การปลูกถั่วฝักยาวในกระถางได้ด้วย)

การดูแลรักษาแปลงถั่วฝักยาว

1. การให้น้ำแปลงถั่ว โดยทั่วไป พืชตระกูลถั่วนั้นจะต้องการน้ำอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรแฉะเกินไป ระยะเจริญเติบโตหลังจากทำการถอนแยกแล้วควรให้น้ำทุกๆ 4-6 วันต่อครั้ง หากไม่ได้ทำการโรยแกลบ หรือใบคูน ใบหางนกยูงไว้รอบๆ เพื่อรักษาความชื้น ควรให้น้ำทุก 3-5 วันต่อครั้ง ให้ตรวจสอบความชื้นในดินให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโต ระบบการให้น้ำอาจใช้วิธีการใส่น้ำเข้าตามร่อง หรืออาจจะใช้วิธีการตักรดโดยตรง ขึ้นอยู่กับแหล่งน้ำที่มี สภาพพื้นที่ปลูกและความชำนาญของการปลูกถั่วฝักยาวของผู้ปลูกเป็นหลัก

2. การทำค้างแปลงถั่ว ถั่วฝักยาวเป็นพืชที่ต้องอาศัยค้าง หรือนั่งร้าน เพื่อเกาะพยุงลำต้นให้เจริญเติบโต ไม้ที่ใช้สำหรับทำไม้ค้างนั้นใช้ไม้ไผ่ หรือไม้อื่น ๆ ที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น โดยความยาวของไม้มีความยาวประมาณ 2.5-3 เมตร หรือตามความเหมาะสม หรืออาจจะสร้างโครงเสาแล้วใช้ลวดขึงด้านบน และใช้เชือกห้อยลงมายังลำต้นถั่วฝักยาวให้เลื้อยขึ้น ระยะเวลาการใส่ค้างถั่วฝักยาวนั้นจะเริ่มใส่หลังจากงอกแล้ว 15-20 วัน โดยจับต้นถั่วฝักยาวให้พันเลื้อยขึ้นค้างในลักษณะ ทวนเข็มนาฬิกา ทำไมต้องทวนเข็ม

การทำคาง จะทำให้ลำต้นแข็งแรงและโตไวที่สุด ในแหล่งที่หาค้างยาก ผู้ปลูกควรใช้เชือกแทนค้าง ควรมีการทดสอบ การใช้เชือกแทนค้างเพื่อหาข้อมูลสำหรับการลดต้นทุนการผลิต แนะนำ การปลูกถั่วฝักยาวไร้ค้าง เพิ่มเติม

ดินปลูกถั่วฝักยาว
ปลูกถั่วฝักยาวแบบอินทรีย์

3. การใส่ปุ๋ย เพื่อเพิ่มผลผลิตถั่วฝักยาว ต่อไร่ ถั่วฝักยาวเป็นพืชที่ต้องการธาตุฟอสฟอรัสสูงในการสร้างดอก ในทางวิชาการแนะนำให้ใช้ปุ๋ยอัตราส่วนของไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P2O5) และโปรแตสเซียม (K2O) คือ 1:1.5-2:1 ปุ๋ยสูตรดังกล่าวไม่มีจำหน่ายในท้องถิ่น อาจใช้สูตร 15-15-15 ซึ่งใช้ในสภาพดินที่เป็นดินเหนียว

หรือสูตร 13-13-21 ในสภาพดินที่เป็นดินทราย ให้ใส่ปุ๋ยเมื่อต้นถั่วอายุประมาณ 15 วัน โดยการพรวนดินแล้วโรยปุ๋ยรอบ ๆ ต้นให้ห่างจากโคนต้นประมาณ 10 เซนติเมตร ในอัตรา 1 ช้อนแกง (25-30 กรัม) ต่อหลุม แล้วใช้ดินกลบ เพื่อป้องกันไม่ให้ปุ๋ยสูญเสียไป

การใส่ปุ๋ยร่วมกับปุ๋ยคอกในระยะนี้ จะทำให้การใช้ปุ๋ยเคมีมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และใส่เมื่อเก็บผลผลิตครั้งแรกเมื่ออายุประมาณ 55 วัน โดยใส่ปุ๋ยประมาณ 2 ช้อนแกงต่อต้น และหลังจากนั้นให้ใส่ปุ๋ยทุก ๆ 7-10 วัน การใส่ปุ๋ยระหว่างช่วงเก็บเกี่ยวอย่างสม่ำเสมอ และปริมาณพอจะทำให้เก็บถั่วฝักยาวได้นาน โดยผลผลิตมีคุณภาพดี และปริมาณผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น

4. การกำจัดวัชพืช หลังจากงอกแล้ว ต้องคอยดูแลวัชพืชในแปลงปลูก โดยทั่วไปแล้วจะกำจัดวัชพืช หลังจากเมล็ดงอกแล้วประมาณ 10-15 วัน หรือก่อนที่จะปักค้าง หลังจากนั้นจึงคอยสังเกตจำนวนวัชพืชในแปลง หากพบวัชพืชควรกำจัด และเมื่อต้นถั่วเจริญเติบโตคลุมแปลงแล้วจะทำให้การแข่งขันของวัชพืชลดลง ในการกำจัดวัชพืชในระยะที่ถั่วฝักยาวเริ่มออกดอกนั้น ต้องเพิ่มควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากการกำจัดวัชพืชอาจกระทบกระเทือนรากอันเป็นสาเหตุให้ดอกร่วงได้ วิธีที่ดีที่สุดหากถอนไม่ได้ คือการตัดต้นวัชพืชชิดโคนต้นให้มากที่สุด

แต่เนื่องจากข้างต้นเป็นการเน้นในเรื่องปุ๋ยเคมีเสียเป็นส่วนใหญ่ และเพื่อให้เข้ากับเนื้อหาเกี่ยวกับการปลูกพืชผักแบบอินทรีย์ ขอแนะนำปุ๋ยที่จะเพิ่มธาตุฟอสฟอรัสในดินให้แก่พืชตระกูลถั่วชนิดนี้ โดยเฉพาะ “การปลูก ถั่วฝักยาว” นี้ คือ…

ปลูกถั่วฝักยาว
ถั่วฝักยาวไร้ค้าง การปลูกและการดูแล

การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ กับแปลงถั่วฝักยาว

การใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง ในการปรับปรุงและบำรุงดินเพื่อให้พืชนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น ปริมาณและชนิดของธาตุอาหารในแต่ละช่วงเวลาการเจริญเติบโตของพืชรวมทั้งความอุดมสมบูรณ์ของดิน ควรมีหลักในการใช้ เพราะปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงที่มีปริมาณธาตุอาหารหลักแต่ละชนิด เช่น สูตรไนโตรเจนสูง ฟอสฟอรัสสูง จะสามารถช่วยให้การใส่ปุ๋ยอินทรีย์ได้ตรงตามความต้องการของพืชในช่วงที่มีการเจริญเิติบโจได้ดี จะช่วยในเรื่องการประหยัดการใช้ปุ๋ย ลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิต

พืชต้องการแร่ธาตุและสารอาหารอะไรที่จำเป็น

เนื้อหาก่อนหน้านั้น ว่าด้วยเรื่อง อาการขาดธาตุอาหารของพ

อ่านเพิ่มเติม
อาการของต้นพืชแบบไหนที่แปลว่าขาดสารอาหาร

ถ้าคุณอยากปลูกพืชผัก ผลไม้ หรือพืชพันธุ์ต่างๆ ให้งอกงาม

อ่านเพิ่มเติม

ปุ๋ยที่เน้นในเรื่องธาตุไนโตรเจนและฟอสฟอรัสสูง ได้มาจากกระบวนการหมักและสลายตัวสมบูรณ์แบบแล้วจากวัสดุอินทรีย์และอนินทรีย์ที่มีธาตุอาหารดังกล่าวสูงผสมกับวัสดุอินทรีย์อื่นๆ ที่มีในธรรมชาติที่ให้ธาตุอาหารไนโตรเจนและฟอสฟอรัสสูงคือ..

กากถั่วเหลืองหรือปลาป่น มูลสัตว์ และ พด.2 ที่ขยายเชื้อในกากน้ำตาลแล้ว สำหรับวัสดุที่จะสามารถนำมาทำเป็นปุ๋ยหมักเพื่อเพิ่มธาตุไนโตรเจนและฟอสฟอรัสให้สูงได้นั้นคือ

  • กากถั่วเหลือง มีไนโตรเจน 7.0-10.0 ฟอสฟอรัส 2.13 โพแทนเซียม 1.12-2.70
  • กากเมล็ดถั่วเหลือง มีไนโตรเจน 7.0-10.0 ฟอสฟอรัส 2.0-3.0 โพแทนเซียม 1.0-2.0
  • กากเมล็ดละหุ่ง มีไนโตรเจน 4.0-7.0 ฟอสฟอรัส 1.0-1.5 โพแทนเซียม 1.0-1.5
  • กากเมล็ดฝ้าย มีไนโตรเจน 6.0-9.0 ฟอสฟอรัส 2.0-3.0 โพแทนเซียม 1.0-2.0
  • ปลาป่น มีไนโตรเจน 9.0-10.0 ฟอสฟอรัส 5.0-6.0 โพแทนเซียม 3.8
  • เลือดแห้ง มีไนโตรเจน 8.0-13.0 ฟอสฟอรัส 0.3-1.5 โพแทนเซียม 0.5-0.8
  • กระดูกป่น มีไนโตรเจน 3.0-4.0 ฟอสฟอรัส 15.0-23.0 โพแทนเซียม 0.68
  • หินฟอสเฟต มีไนโตรเจน 0.15 ฟอสฟอรัส 15.0-17.0 โพแทนเซียม 0.10
  • มูลค้างคาว มีไนโตรเจน 1.0-3.0 ฟอสฟอรัส 12.0-15.0 โพแทนเซียม 1.84

ความรู้ด้านการทำเกษตรอินทรีย์ที่น่าสนใจ ล่าสุดในตอนนี้

เทคนิคและวิธีการ

ปลูกถั่วฝักยาวแบบอินทรีย์

ถั่วฝักยาว สามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินแทบจะทุกชนิด แต่ท

อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม

บทความน่ารู้

วนเกษตร กับสังคมไทย

วนเกษตร หมายถึงอะไร ต่างหรือคล้ายกับการทำเกษตรทั่วไปแบบ

อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม

เทคนิคและวิธีการ

พริกในเมืองไทย เผ็ดร้อนแค่ไหน อยากรู้มาดูตรงนี้

ระดับความเผ็ดของพริกเมืองไทย เผ็ดขนาดไหน ทำไมฝรั่งถึงร้

อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม

เกษตรในพื้นที่น้อย

เชื้อราในดิน ปัญหาของคนปลูกผักในกระถาง

ปัญหาอย่างหนึ่งที่พบได้บ่อยสำหรับคนที่ชอบปลูกผักพื้นที่

อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม

เกษตรในพื้นที่น้อย

ทำยังไงให้มะนาวในวงบ่อซีเมนต์ ได้ผลดกและคุณภาพดี

มะนาววงปูน ปลูกผักพื้นที่น้อย สร้างรายได้ ที่รู้จักกันด

อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม

เทคนิคและวิธีการ

การปลูกแก้วมังกร เริ่มต้นวิธีง่าย ๆ แต่ได้ผลผลิตจริง

แก้วมังกร เป็นผลไม้นอกสายตาของนักเกษตร มีน้อยบ้านที่จะป

อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม
pay day nonstop shopee โค้ดส่งฟรี

เทคนิค วิธีการ

เทคนิคการทำเกษตร

พื้นที่น้อย

ทำเกษตรในพื้นที่น้อย

การทำปุ๋ย

การปรับปรุงดิน

ขยายพันธุ์พืช

การขยายพันธุ์พืช

You need to login to contact with the Listing Owner. Click Here to log in.

error: อนุญาตแบบมีที่มา