เพาะเมล็ดองุ่นไว้ปลูกในกระถางหน้าบ้าน ทำอย่างไรถึงได้ผล

ปลูกองุ่นในกระถาง ให้ได้ผล เพราะฝนกำลังจะไปแล้ว ถึงคราวเข้าช่วงฤดูหนาวกันแล้ว หนาวนี้ พืชที่นึกถึงเป็นอันดับแรกสำหรับ ปลูกไว้หน้าบ้าน ก็คือ “องุ่น

เพราะถ้าไม่ใช่พื้นที่ที่เหมาะสมในการปลูก ก็อย่าหวังว่าจะงามและสร้างรายได้ให้ได้ แต่หากปลูกไว้จัดสวน ก็ไม่ควรพลาด : แนะนำให้ดูข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อง ตารางการปลูกพืชผักตามฤดูกาล

ปลูกองุ่นในกระถาง สิ่งสำคัญคือ ซุ้มองุ่น หน้าบ้านยิ่งดี สำหรับไว้เป็นไม้เลื้อย อวดเพื่อนบ้าน ถ้าไม่ซื้อต้นพันธุ์มา ก็ต้องเพาะเมล็ดองุ่นเพื่อเอามาปลูกเอง อาจลำบากหาต้นพันธุ์บ้างเพราะไม่ใช่ว่านึกอยากจะปลูกอยากจะเพาะก็จะง่ายไปหมด บางคนไม่อยากรอเพราะเพาะเมล็ดเองไม่ได้ผล ก็จะไปหาตามร้านขายต้นไม้ อาเจอกิ่งใหญ่ ตอใหญ่ซักหน่อย ราคาอยู่ที่ประมาณ 300-500 บาท

การซื้อกิ่งพันธุ์นั้นก็รับประกันได้ว่า งอกแน่นอน ดูแลรักษาไม่ยาก แต่ใช่ว่าจะเอาลงดินแล้วงามเป็นซุ้มไม้เลื้อยได้ ถ้าดูแลไม่ดีก็อาจจะตายก่อนได้เห็นลูกองุ่น

ส่วนใครไม่อยากซื้อต้นพันธุ์ สามารถใช้เมล็ดองุ่นที่เรากินนี่แหละมาเพาะให้งอกได้เลย แต่ก็ต้องเลือกพันธุ์ที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่จะปลูกด้วย จะต้องรู้ว่าพื้นที่ที่จะปลูกมีสภาพอากาศ ดิน น้ำ อย่างไร

เพราะเกิดเพาะเป็นต้นกล้าออกมาแล้วเอามาปลูกจะตายซะก่อน แล้วมานั่งบ่นว่าไม่ได้ผล วันนี้ทีมเกษตรอินทรีย์ก็จะมาแนะนำสายพันธุ์องุ่นที่สามารถเพาะเมล็ดให้งอก และนำมาปลูกจนมีผลผลิตได้ แม้จะอยู่ในเมืองก็ตาม ตามมาดูกันเลย

ปลูกองุ่นในกระถาง พันธุ์ที่เหมาะกับการปลูกในประเทศไทย มีอะไรบ้าง

ส่วนใหญ่จะปลูกเอาไว้ทำไวน์ ซึ่งในประเทศไทยมีอยู่มากกว่า 1,000 ชนิด คัดเลือกที่นิยมปลูกและปลูกได้ผลในสภาพแวดล้อมในเมืองไทย ก็จะมีดังนี้

สายพันธุ์องุ่นที่นิยมปลูกในประเทศไทย
  • ชีราส (Shiraz/Syrah)
    พันธุ์องุ่นกำลังมาแรงเป็นที่นิยมทั่วโลกขณะนี้ มีต้นกำเนิดจากประเทศฝรั่งเศส เป็นองุ่นแดงขนาดเล็กสำหรับทำไวน์แดง ให้รสชาติที่หนักแน่นของผลไม้สีเข้ม จะให้กลิ่นรสของผลไม้สุกงอม พริกไทย เครื่องเทศ และควันซิการ์ พร้อมด้วยรสฝาดของแทนนินอ่อน ๆ (Soft Tannin)
  • ดอร์นเฟลเดอร์ (Dornfelder)
    เป็นองุ่นแดงที่มีอายุน้อยสายพันธุ์หนึ่ง ที่นิยมเพาะปลูกในประเทศเยอรมัน ให้สีที่เข้ม พร้อมรสชาติที่สดชื่น มีรสของผลไม้ หวานนิดๆ และด้วยลักษณะของตัวสายพันธุ์ที่เป็นองุ่นที่มีเปลือกหนาทำให้ไวน์มีรสฝาดสูง (High Tannin)
  • เชอนิน บลองค์ (Chenin Blanc)
    แค่ได้ยินชื่อความหวานหอมดอกไม้และเลมอนอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวขององุ่นขาวพันธุ์นี้ก็ลอยมา สามารถนำมาทำไวน์ได้ตั้งแต่ไวน์ที่มีรสเปรี้ยว (Dry) ไปจนถึงรสหวาน (Sweet) และเอชิดิตี้ที่นุ่มนวล (Acidity)
  • โคลอมบาร์ด (Colombard)
    องุ่นขาวที่ถือว่าเป็นสายพันธุ์เดียวกันกับ เชอนิน บลองค์ (Chenin Blanc) เพาะปลูกในฝรั่งเศส สามารถเจริญเติบโตได้ดีในเมืองไทย นิยมนำมาทำ คอนยัค (Cognac) และ อามานยัค (Armagnac) ให้รสชาติสดชื่น มีความหอมของผลไม้นานาชนิดและรสของผลฝรั่ง
  • ซานจีโอเวเซ่ (Sangiovese)
    องุ่นแดงที่เพาะปลูกมากที่สุดพันธุ์หนึ่งในอิตาลี มีเปลือกบางสีน้ำเงินเข้มเกือบดำเมื่อสุกเต็มที่ หากนำมาทำไวน์แดงที่มีอายุน้อย ๆ จะทำให้ได้รสผลไม้เป็นหลัก กับกลิ่นหอมของดอกไม้ ในขณะที่ถ้าเป็นไวน์แดงที่มีอายุมาก ๆ จะได้ไวน์ที่มีสีเข้มพร้อมกับกลิ่นดิน (Earthy)

สำหรับองุ่นในสายพันธุ์อื่นที่ต่างออกไปจากนี้ก็สามาถนำมาปลูกได้ เพราะในสภาพอากาศเมืองไทยสามารถปลูกได้กว่า 1,000 ชนิด เช่น พันธุ์ไวท์มะละกา พันธุ์คาร์ดินัล ที่ปลูกในกระถางได้ หรือ พันธุ์แบล็คโอปอร์ พันธุ์เพอร์เลส พันธุ์แดงนอก ซึ่งกลุ่มนี้เป็นสายพันธุ์ไร้เมล็ด การขยายพันธุ์องุ่นไร้เมล็ดส่วนใหญ่จะเป็นการปักชำ และการตอน ส่วนการทาบกิ่ง การติดตา และการต่อกิ่ง จะทำโดยการนำกิ่งพันธุ์ดีมาใช้กับต้นพันธุ์ที่เพาะจากเมล็ด เนื่องจากพันธุ์ที่เพาะจากเมล็ดจะหาอาหารเก่งและมีระบบรากที่มั่นคงกว่า

ต้นองุ่น

ปลูกองุ่นในกระถาง ต้องมีสภาพอากาศแบบไหน

องุ่นชอบอากาศแบบไหน อุปสรรคในการปลูกองุ่นคือสภาพอากาศ องุ่นโดยทั่วไปนั้นจะชอบพื้นที่ที่มีอุณหภูมิค่อนข้างสูง แดดจัด และความชื้นในอากาศต่ำ ในสภาพอากาศแบบนี้จะให้ผลผลิตดีมาก ผลที่ได้จะมีคุณภาพดี หวาน อร่อย แต่หากมีความชื้นสูง มักจะมีโรคแมลงเข้ามารบกวน ส่วนเรื่องดิน องุ่นจะชอบดินที่มีความเหนียว มีแร่ธาตุอาหารสูง ส่วนดินดอนหรือดินทรายก็ปลูกได้ แต่ต้องขุดหลุมให้รากลงลึกประมาณ 2 ฟุตเป็นอย่างน้อย สำหรับสภาพแวดล้อมในประเทศไทย จำเป็นต้องมีการดูแลมากกว่าปกติ แต่หากปลูกไว้ประดับบ้านก็ไม่ยุ่งยากเรื่องการดูแล เพราะไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องคุณภาพของผลผลิต

องุ่นเป็นพืชที่ต้องการน้ำมาก แต่ไม่ชอบน้ำขัง จึงควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมออย่าให้ดินแห้ง โดยเฉพาะหลังจากการตัดแต่งกิ่งแล้วต้องให้น้ำเพื่อให้ดินชื้นอยู่เสมอ แต่ไม่ควรแฉะเกินไป

เพาะเมล็ดองุ่นไว้ปลูกเองในฤดูหนาว ทำอย่างไรถึงได้ผล

วิธีการเพาะเมล็ดองุ่นเพื่อนำมาปลูก

เลือกสายพันธุ์ที่ต้องการก่อน ถ้าจะปลูกลงกระถางควรเลือกพันธุ์องุ่นที่มีเมล็ด เช่น พันธุ์ไวท์มะละกา พันธุ์คาร์ดินัล เพราะองุ่นสายพันธุ์นี้จะไม่ต้องการแร่ธาตุอาหารมากในการบำรุงผล แต่หากต้องการปลูกลงดิน ก็ควรเลือกพันธุ์ไร้เมล็ด (อาจซื้อกิ่งตอนมาปลูก) เช่น พันธุ์แบล็คโอปอร์ พันธุ์เพอร์เลส องุ่นพันธุ์แดงนอก เพราะในดินแร่ธาตุอาหารมีมาก อาจมีลุ้นจะได้คุณภาพผลผลิตที่ดี

วิธีการเพาะเมล็ดแบบไร้ดิน
เพาะเมล็ดองุ่นไว้ปลูกเองในฤดูหนาว

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมสำหรับการเพาะเมล็ดองุ่น

  1. เมล็ดองุ่น (สายพันธุ์ที่ชอบ) ตามจำนวนที่ต้องการ
  2. กระดาษชำระชนิดที่ไม่มีสารเคมีผสม
  3. ถุงสูญญากาศ หรือกล่องมีฝาปิด
  4. ดินร่วนปนทราย (ตากให้แห้ง)
  5. ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยอินทรีย์ (ตากให้แห้ง) ไม่แนะนำให้ใช้ปุ๋ยคอกหรือมูลสัตว์ที่ยังไม่ผ่านการหมัก เพราะอาจมีเชื้อโรคปะปน
  6. กระถางสำหรับเพาะต้นอ่อน
  7. กระถางใหญ่สำหรับปลูก
  8. ไม้ไผ่ เสาไม้ หรือเสาปูน
การเพาะเมล็ดองุ่น
เมล็ดองุ่นที่เพาะงอกแล้ว
ต้นองุ่นที่เกิดจากการเพาะเมล็ด

การเพาะเมล็ดองุ่น ขั้นตอน วิธีการ

  • นำเมล็ดองุ่นไปแช่น้ำ ถ้าเมล็ดจมน้ำแสดงว่าสามารถนำไปเพาะให้งอกได้ เมื่อคัดเลือกเมล็ดดีได้แล้วก็ให้นำเมล็ดองุ่นที่ได้ไปทำความสะอาด แช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 24 ชั่วโมง
  • ใช้กระดาษชำระชุบน้ำให้ชุ่ม กระดาษชำระที่ไม่มีน้ำหอม และสารฟอกสี กลิ่น หรือสารเคมีอื่นๆ ที่จะทำให้เมล็ดองุ่นเน่า หากไม่ใช้กระดาษชำระ สามารถใช้ดินร่วนปนทรายที่แห้งแล้วใส่รองก้นกล่องหรือถุงสูญญากาศได้ แล้วฉีดน้ำให้ชุ่มแต่อย่าแฉะเกินไป
  • วางเมล็ดองุ่นลงเพาะในวัสดุ อย่าให้ชิดกันมาก คลุมเมล็ดด้วยกระดาษชำระชุบน้ำทับอีกที หรือใช้ทรายหรือมอสทับด้านบนบางๆ และนำไปแช่ในตู้เย็นในช่องปกติ

ระยะเวลาการงอกของเมล็ดองุ่นอาจยาวนานประมาณ 2–3 เดือน เมื่อเมล็ดองุ่นงอก จะเห็นรากแทงออกมาจากเมล็ด หากเริ่มต้นเพาะเมล็ดก่อนช่วงเข้าสู่ฤดูหนาว จะได้ต้นกล้าองุ่นที่สามารถนำมาปลูกได้ในช่วงฤดูหนาวพอดี (พฤศจิกายน – มีนาคม)

เมื่อเพาะเมล็ดองุ่นจนได้เวลาตามที่กำหนด หรือเมล็ดองุ่นมีรากแทงออกมาจากเมล็ดที่เพาะแล้ว ให้นำเมล็ดองุ่นที่งอกแล้วแยกออกมาปลูกในกระถางเพาะกล้า โดยการวางให้ห่างกันอย่างน้อย 3-4 เซนติเมตร แล้วนำกระถางไว้ในที่ร่มอากาศถ่ายเทสะดวก ให้มีแสงบ้างแต่ไม่ควรโดนแดดโดยตรง รอจนกระทั่งต้นอ่อนงอกขึ้นมา ซึ่งจะใช้เวลาอีกประมาณ 5-7 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของเมล็ดพันธุ์และสภาพอากาศ ในช่วงนี้อย่าให้ดินแห้งเด็ดขาดเพราะเมล็ดจะแห้งตายได้ง่ายมาก

ในระหว่างนี้ต้องคอยดูแล อย่าปล่อยให้ดินแห้งหรือชุ่มน้ำเกินไป หมั่นรดน้ำโดยการฉีดน้ำจากขวดสเปรย์แทนการเทน้ำลงโดยตรง ให้น้ำ 1-2 วันต่อครั้ง เมื่อต้นอ่อนมีความสูงประมาณ 8 เซนติเมตร สามารถย้ายลงปลูกกระถางใหญ่ได้ หรือจะวางไว้ในที่ร่มเหมือนเดิมจนกว่าจะได้ความสูงประมาณ 30 เซนติเมตรหรือมีครบ 5-6 ใบก็ได้ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในการเพาะเมล็ดองุ่นแล้วแน่นอน แนะนำข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อง การเพาะเมล็ดแบบไม่ใช้ดิน เพื่อเพาะเมล็ดพืชชนิดอื่น

ต้นองุ่นที่เกิดจากการเพาะเมล็ดและมีความสูงเกินกว่า 30 ซม.นั้นจะมีความต้องการแสงแดดประมาณวันละ 7-8 ชม. เมื่อต้นองุ่นสูงขนาดนี้ ควรแยกออกไปไว้ในที่มีแสงแดดรำไรประมาณ 2-3 วันก่อนจะนำไปไว้กลางแจ้งเพื่อให้มีการปรับตัว ระหว่างนี้หากยังอยู่ในกระถางจะต้องนำไม้ไผ่หรือเสาไม้ปักและใช้เชือกผูกต้นองุ่นติดกับเสาไว้ป้องกันการเอนต้น เพราะองุ่นเป็นพืชเถาไม้เลื้อย ในระยะแรกลำต้นยังไม่แข็งแรงจะต้องใช้เสาไม้หรือเสาปูนคอยพยุงลำต้นให้ตั้งตรงเพื่อให้ยอดแตกเครือต่อไป เมือต้นแข็งแรงและมีสีน้ำตาล หรือมีใบแก่แล้ว หากต้นองุ่นแตกยอดเถามาก ควรตัดแต่งกิ่งให้โปร่งโล่ง จะทำให้กิ่งที่ออกมาใหม่ติดพวงดอก ก่อนการตัดกิ่งนั้นต้องงดให้น้ำอย่างน้อย 7 วันและคอยตรวจเช็กพร้อมกำจัดแมลงกินใบที่จะเข้ามาด้วย

การเตรียมหลุมปลูกต้นองุ่น ทำอย่างไรให้รอดตาย

การเตรียมหลุมปลูกองุ่น

ในระหว่างการรอเมล็ดองุ่นที่เพาะไว้จะงอก อาจมีการเตรียมพื้นที่ปลูกรอไว้ เช่น ทำหลุมปลูก หรือกระถางต้นไม้ ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องพื้นที่ปลูก แนะนำให้เลือก วิธีปลูกองุ่น ลงดิน เพราะในดินมี แร่ธาตุอาหาร มากกว่า ในกระถาง และ ง่ายต่อการดูแล ลืมรดน้ำไปหลายวัน หรือลืมให้ปุ๋ยก็อาจไม่ตาย การปลูกองุ่นในกระถาง จะต้องดูแลมากเป็นพิเศษ การปลูกลงดินควรเตรียมหลุมปลูกโดยขุดดินเดิมออกมาก่อน ขุดให้ได้ขนาดหลุมกว้าง 1 ฟุต ลึก 1 ฟุต ใส่ปุ๋ยคอกรองที่ก้นหลุมเยอะๆ จากนั้นนำดินดีผสมกับปุ๋ยหมุกเททับลงไปอีกเล็กน้อยให้พอเกือบเต็มหลุม (ไม่ควรนำกาบมะพร้าวสับ หรือวัสดุชุ่มน้ำอื่นรองก้นหลุมเพราะจะทำให้องุ่นเกิดรากเน่าได้ง่ายๆ)

เมื่อเตรียมหลุมได้แล้ว ให้นำต้นกล้าวางลงในหลุม แล้วกลบด้วยดินดีผสมปุ๋ยหมักจนกลบรากได้มิด กดดินเบาๆ อย่าให้แน่นจนเกินไป ใช้ไม้ทำเป็นเสาปักและมัดลำต้นเข้ากับเสาไม้เพื่อช่วยพยุงให้ต้นองุ่นได้เลื้อยขึ้นหาแสง และรดน้ำให้ชุ่ม ไม่ต้องทำร่มให้ต้นกล้า ช่วงแรกรากยังน้อยดูดน้ำไม่เก่ง ควรรดน้ำบ่อยวันละ 2 ครั้งหรือสังเกตุสภาพดิน ถ้าแห้งก็รดน้ำซ้ำ

ต้นองุ่นริมรั้วบ้าน

การปลูกองุ่นริมรั้ว

เริ่มต้นจากการหาทำเลที่จะปลูกบริเวณริมรั้วบ้าน ซึ่งองุ่นต้องการแสงแดดส่องอย่างน้อยครึ่งวัน หากปลูกในที่ร่มองุ่นจะไม่ออกผล กรณีที่ต้องการเป็นซุ้มองุ่น ควรทำค้างและซุ้มรอไว้ก่อน เมื่อได้พื้นที่ปลูก ก็ใช้ต้นพันธุ์ที่ต้องการนำมาปลูกได้เลยตรงบริเวณโคนเสา การปลูกตามบ้านเรือนมักจะมีปัญหาเรื่องพื้นที่จำกัดและมีพื้นที่ให้องุ่นเลื้อยน้อย ดังนั้นควรเลือกพันธุ์ที่มีข้อสั้น คือมีระยะห่างระหว่างใบน้อย หากเป็นพันธุ์ข้อยาวจะเลื้อยออกนอกค้างเร็วมาก

การปลูกองุ่นลงในกระถาง

หากเลือกจะปลูกองุ่นลงในกระถาง จำเป็นต้องเลือกกระถางใหญ่ มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 18 นิ้วขึ้นไป เพราะองุ่นมีการแตกกิ่งตั้งแต่โคนต้น แต่การเจริญเติบโตจะสู้ปลูกลงดินไม่ได้ หากสารอาหารจากดินในกระถางไม่เพียงพอจะทำให้ต้นแคระ แกรนและมีใบเล็ก หากน้ำน้อยจะทำให้ใบเล็ก ไม่เขียวสด และใบไม่แข็งแรง จำเป็นต้องให้ปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกอยู่บ่อยๆ แม้การรองก้นกระถางด้วยปุ๋ยอย่างดี แต่จำเป็นต้องให้อย่างต่อเนื่อง นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ใครหลายๆ คนปลูกองุ่นในกระถางแล้วไม่งามหรือไม่รอดภายในเวลาไม่ถึงปี เพราะดินในกระถางมีแร่ธาตุอาหารไม่เพียงพอ และการใส่ปุ๋ยก็อาจชิดโคนต้นมาเกินไปทำให้รากองุ่นได้รับสารอาหารไม่ครบ อีกทั้งการใช้ปุ๋ยเคมีหรือปุ๋ยเม็ดแบบละลายช้าในจำนวนมาก ก็ทำให้เกิดรากเน่าได้ง่าย

เทคนิคการปลูกองุ่นให้โตเร็วและไม่ตายง่าย

แน่นอนว่าเมื่อได้กล้าองุ่นที่ได้จากความสำเร็จในการใช้วิธีเพาะเมล็ดองุ่นแล้ว ก็เริ่มนำกล้านั้นมาปลูกลงดินได้เลย เทคนิคที่จะทำให้ต้นองุ่นโตเร็วและรอดตาย แถมยังให้ลูกที่มีความหวาน ต้องเริ่มตั้งแต่การจัดการเรื่องดินก่อน อันดับแรกคือการผสมดินร่วนปนทรายกับปุ๋ยหมักในจำนวนมากเพื่อนำไปทำดินปลูก และพื้นที่ปลูกควรอยู่ในที่มีแดดส่องทั้งวัน เพราะต้นองุ่นต้องการแสงแดดวันละ 7-8 ชั่วโมงในการเจริญเติบโต ก่อนนำต้นองุ่นมาปลูก ให้ปักเสาไม้หรือเสาปูน หรือไม้ไผ่เอาไว้ก่อนเพื่อยึดต้นองุ่นให้เลื้อยอย่างมั่นคง แล้วค่อยนำต้นองุ่นลงปลูกในที่ที่เตรียมไว้ การปลูกต้นองุ่นก่อนแล้วปากเสาไม้ตามลงไปอาจทำให้ดินบริเวณโคนเป็นหลุมกว้างเกินและทำให้ดินแห้งเร็วขึ้น

หลุมปลูกให้เว้นระยะห่างระหว่างต้น 2.5 เมตร กว้างและลึกประมาณ 30 ซม. แล้วใส่ปุ๋ยผสมดินปลูกจนเกือบเต็มถึงจะนำต้นกล้ามาวางในหลุมและกลบโคนต้นด้วยดินปลูกอีกครั้งให้แน่น ใช้เชือกผูกต้นองุ่นติดกับโคนเสา ขึงเชือกจากปลายเสาไปยังค้างใหญ่ให้เครือองุ่นได้ไต่ขึ้น เมื่อต้นองุ่นแข็งแรง กิ่งที่มีสีน้ำตาลและมีใบแก่ควรตัดทิ้ง หรือกิ่งที่อยู่ต่ำออกบ้าง และพยายามให้โค้นต้นโล่ง เพื่อให้กิ่งที่ออกมาใหม่ติดพวงดอกเร็วขึ้น ก่อนการตัดแต่งกิ่งควรงดให้น้ำ และควรตัดใบและยอดที่ถูกแมลงเข้าทำลายทิ้งไป

ตัดแต่งกิ่งต้นองุ่น

เทคนิคการปลูกองุ่นให้ได้ลูกดก จากเกษตรกรตัวจริง

สำหรับวิธีปลูกองุ่นให้ได้ผลดก ที่นายเกษตรได้เคยกล่าวไว้ในคอลัมน์ “เกษตรกรบนแผ่นกระดาษ” จากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ว่าให้ใช้เสาปูนหน้ากว้าง 3 นิ้ว ยาว 2.5-3 เมตร ที่มีขายทั่วไปตามร้านวัสดุก่อสร้าง ขุดหลุมฝังเสาให้เหลือส่วนเหนือดินสูง 1.5 เมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกพอประมาณ ใช้ 2 เสาฝังห่างกันประมาณ 8-10 เมตร จากนั้นเอาต้นองุ่นลงปลูกติดกับโคนเสาโดยปลูกเสาละ 1 ต้น ทั้ง 2 เสา กลบดินให้แน่น ใช้เชือกผูกต้นหรือเถาให้แนบกับเสาปูน ปลายเสาทำคานขวางทั้ง 2 เสาให้แน่น ใช้ลวดเบอร์ 11 ขึงเชื่อมกัน 5-6 เส้นเหมือนทำราวตากผ้า รดน้ำเช้าเย็นอย่างสม่ำเสมออย่าให้ขาด

เมื่อต้นองุ่นที่ปลูกได้อายุ 6-7 เดือน ต้องตัดแต่งกิ่งโดยเลือกตัดกิ่งที่แก่เป็นสีน้ำตาลเข้มทิ้ง ก่อนตัดกิ่งต้องงดให้น้ำ 2-3 อาทิตย์ เสร็จแล้วใส่ปุ๋ยสูตรเสมอหลังตัดแต่งกิ่ง และใส่ซ้ำ 10 หรือ 15 วันต่อครั้งเพื่อบำรุงยอดใบและดอก ต้นองุ่นที่ตัดแต่งกิ่งแล้วประมาณ 2 อาทิตย์จะมีใบอ่อนและออกดอกพร้อมกันให้เห็น จากนี้นับไปอีก 20 วัน ให้ใส่ปุ๋ย 13-13-21 เร่งการเจริญของดอกครั้งหนึ่ง และเมื่อผ่านไปอีก 40 วัน ให้ใส่ปุ๋ย 0-0-50 เพื่อเพิ่มคุณภาพผลอีกครั้งหนึ่ง พอย่างเข้าสู่วันที่ 70-90 ให้ใส่ปุ๋ย 8-24-24 อีกเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อช่วยให้เนื้อองุ่นมีรสชาติหวานกรอบอร่อย ติดผลเป็นพวงสวยงาม

ใกล้เข้าหน้าหนาวแล้ว จะไม่ลอง เพาะเมล็ดองุ่น ไว้ปลูกลงกระถางหน้าบ้าน ซักหน่อยเหรอ เจ้านาย

ความรู้ด้านการทำเกษตรอินทรีย์ที่น่าสนใจ ล่าสุดในตอนนี้

การเลี้ยงสัตว์

8 สายพันธุ์ไก่ไข่ที่นิยมเลี้ยงกันในบ้านเรา

รวม 8 สายพันธุ์ไก่ไข่ที่ให้ผลผลิตสูง และถือเป็นที่นิยมเ

อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม

บทความน่ารู้

ประจำเดือนผู้หญิง ตัวช่วยเร่ง ต้องใช้สมุนไพรขับ

ยาเร่งประจำเดือนมีไหม? แนะนำว่า ใช้สมุนไพรช่วยขับ จะดีก

อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม

เกษตรในพื้นที่น้อย

ทำยังไงให้มะนาวในวงบ่อซีเมนต์ ได้ผลดกและคุณภาพดี

มะนาววงปูน ปลูกผักพื้นที่น้อย สร้างรายได้ ที่รู้จักกันด

อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม

สายพันธุ์ข้าวไทย

ข้าวลืมผัว ข้าวเหนียวที่อร่อยจนลืมเหลือให้ผัวจริงหรือ

พันธุ์ข้าวเหนียวที่หญิงส่วนใหญ่ได้กิน อร่อยจนลืมผัวจริง

อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม

เทคนิคและวิธีการ

ปลูกมะพร้าวต้นเตี้ยอินทรีย์ วิธีที่ทำให้ผลดก

มะพร้าว เป็นพืชทนแล้งที่ขึ้นได้ทุกที่ในประเทศบ้านเรา รว

อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม

เทคนิคและวิธีการ

ถั่วฝักยาวไร้ค้าง การปลูกและการดูแล

ถั่วฝักยาวไร้ค้าง คือถั่วที่ถูกปรับปรุงสายพันธุ์ ให้ไม่

อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม
pay day nonstop shopee โค้ดส่งฟรี

เทคนิค วิธีการ

เทคนิคการทำเกษตร

พื้นที่น้อย

ทำเกษตรในพื้นที่น้อย

การทำปุ๋ย

การปรับปรุงดิน

ขยายพันธุ์พืช

การขยายพันธุ์พืช

You need to login to contact with the Listing Owner. Click Here to log in.

error: อนุญาตแบบมีที่มา