รวม 8 สายพันธุ์ไก่ไข่ที่ให้ผลผลิตสูง และถือเป็นที่นิยมเลี้ยงกันในบ้านเรา เพราะทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดี เลี้ยงง่าย ไม่ยุ่งยาก และคนเมืองก็เลี้ยงได้
จากบทความครั้งก่อน เรื่องของ การเลี้ยงไก่ไข่ และคงตอบคำถามให้ได้ว่า มีพื้นที่ขนาดไหน สภาพแวดล้อมแบบไหน ควรเลี้ยงไก่ไข่พันธุ์ไหนถึงจะดี และให้ผลผลิตสูง วันนี้ขอมาขยายในส่วนของ สายพันธุ์ไก่ไข่ที่คนไทยนิยมเลี้ยง แต่ละชนิด มีความแตกต่างกันอย่างไร และมีข้อดีข้อเสียอย่างไรกัน
เพราะไก่ไข่แต่ละสายพันธุ์ มีความแตกต่างกัน ทั้งเรื่องขนาดตัว สีขน และปริมาณอาหาร ที่ต้องการได้รับเพื่อการเร่งให้ได้ผลผลิต ไข่ไก่ ได้ทุกวัน
สำหรับรายละเอียดนี้ ก็จะวัดจากปริมาณเฉลี่ยของผลผลิต จากข้อมูลของผู้ที่มีประสบการณ์ในการเลี้ยงไก่ไข่มาแล้วทุกสายพันธุ์ที่กล่าวในนี้ โดยจะขอเรียงลำดับ จากผลผลิตไข่ที่ได้ต่อปี จากน้อยไปมาก เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นถึง ความแตกต่างของไก่ไข่ แต่ละสายพันธุ์ ว่ามีข้อดี ข้อเสียอย่างไร
เพื่อเป็นตัวช่วยให้เกษตรกร หรือผู้สนใจเลี้ยงไก่ไข่ จะได้คัดเลือก และนำไปเลี้ยงได้ตามที่ตนเองถนัด
- พันธุ์บาร์พลีมัทร็อค ให้ผลผลิตเฉลี่ย ประมาณ 200-220 ฟองต่อปี
- พันธุ์ไทย-พลีมัทร็อค ผลผลิตเฉลี่ย ประมาณ 220-250 ฟองต่อปี
- พันธุ์สามสาย ให้ผลผลิตเฉลี่ย ประมาณ 220-250 ฟองต่อปี
- พันธุ์โร้ดไอส์แลนด์เรด ให้ผลผลิตเฉลี่ย ประมาณ 220-270 ฟองต่อปี
- พันธุ์เลกฮอร์นขาว ให้ผลผลิตเฉลี่ย ประมาณ 280-300 ฟองต่อปี
- พันธุ์ลูกผสมกรมปศุสัตว์ ให้ผลผลิตเฉลี่ย ประมาณ 280-300 ฟองต่อปี
- พันธุ์ซุปเปอร์ฮาร์โก้ ให้ผลผลิตเฉลี่ย ประมาณ 280-300 ฟองต่อปี
- พันธุ์ไฮบริด ให้ผลผลิตเฉลี่ย ประมาณ 280-300 ฟองต่อปี
ไก่ไข่พันธุ์บาร์พลีมัทร็อค
ไก่ไข่สายพันธุ์บาร์พลีมัทร็อค (Barred Plymouth Rock) ที่ให้ผลผลิตเฉลี่ย ประมาณ 200-220 ฟองต่อปี เป็นไก่ไข่ที่มีการนำเข้ามาเลี้ยงในประเทศไทย ตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ. 2498 พร้อม ๆ กับไก่โร้ดไอส์แลนด์เรด โดยฝูงไก่ที่เลี้ยงของกรมปศุสัตว์ เป็นฝูงที่เลี้ยงและรักษาพันธุ์มากว่า 50 ปี จนถือได้ว่า เป็นไก่สายพันธุ์ของกรมปศุสัตว์ และเนื่องจากไก่พันธุ์นี้ เป็นไก่กึ่งไข่กึ่งเนื้อ จึงเหมาะจะใช้เป็น แม่พันธุ์ ในการผลิตไก่ลูกผสมพื้นเมือง แต่มีข้อด้อยกว่าคือ ไก่ลูกผสม เพศผู้ มักมีขนสีลายบาร์ (ดำ-ขาว) ซึ่ง ขายทำกำไรไม่ค่อยได้
บาร์พลีมัทร็อค
ลักษณะประจำพันธุ์ ของไก่ไข่สายพันธุ์บาร์พลีมัทร็อค ทั้งเพศผู้ และเพศเมีย มีขนลำตัวสีลายดำขาวทั้งตัว แข้ง ปาก สีเหลือง ใบหน้าสีแดง หงอนจักร ไก่ไข่พันธุ์บาร์พลีมัทร็อค อายุให้ไข่ฟองแรก 142 – 190 วัน น้ำหนักตัวเมื่อให้ไข่ฟองแรก 1,665 – 2,009 กรัม ผลผลิตไข่ 199 – 241 ฟอง/ปี น้ำหนักไข่ 48 – 62 กรัม เป็นไก่กึ่งไข่กึ่งเนื้อ
ไก่ไข่พันธุ์ไทย-พลีมัทร็อค
ผลผลิตเฉลี่ย ประมาณ 220-250 ฟองต่อปี ได้จากไก่พันธุ์พื้นเมือง ผสมกับไก่พันธุ์บาร์พลีมัทร็อค จึงได้ลักษณะเหมือนหรือคล้ายกับ ไก่ไข่สายพันธุ์บาร์พลีมัทร็อค เป็นไก่กึ่งไข่กึ่งเนื้อ ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์พื้นเมืองที่นำมาผสม
ไทย-พลีมัทร็อค
สามสาย
ไก่ไข่พันธุ์สามสาย
ให้ผลผลิตเฉลี่ย ประมาณ 220-250 ฟองต่อปี ไก่พันธุ์นี้มีคุณสมบัติให้ลูกดก เจริญเติบโตเร็ว เนื้อหน้าอกเต็ม
เมื่อนำไปผสมกับพันธุ์พื้นเมือง จะให้ลูกผสมสี่สายพันธุ์ ที่มีลักษณะไม่แตกต่างกับไก่พื้นเมือง คุณภาพเนื้อทัดเทียม หรือดีกว่าไก่พื้นเมือง ไก่ตัวผู้นิยมนำมาทำเป็นไก่เนื้อ ส่วนตัวเมียให้ไข่ดก ฟักลูกเก่ง โตเร็ว เป็นไก่กึ่งไข่กึ่งเนื้อที่สนต่อสภาพแวดล้อมได้ดี เนื่องจากเป็นพันธุ์พื้นเมืองผสม
ไก่ไข่พันธุ์โร้ดไอส์แลนด์เรด
ไก่ไข่โร้ดไอส์แลนด์เรด (Rhode Island Red) ให้ผลผลิตเฉลี่ย ประมาณ 220-270 ฟองต่อปี มีถิ่นกำเนิดจากประเทศอเมริกา นำเข้ามาเลี้ยงในประเทศไทยตั้งแต่ประมาณ ปี พ.ศ. 2498 โดยฝูงไก่ที่เลี้ยงของกรมปศุสัตว์ เป็นฝูงที่เลี้ยงและรักษาพันธุ์มากว่า 50 ปี จนถือได้ว่าเป็นไก่สายพันธุ์กรมปศุสัตว์ แหล่งที่เลี้ยง พบมากในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกของประเทศไทย ทนอากาศหนาวเย็นได้ดี
โร้ดไอส์แลนด์เรด
ลักษณะประจำพันธุ์ ของไก่ไข่พันธุ์โร้ดไอส์แลนด์เรด
ทั้งเพศผู้และเพศเมีย จะมีขนลำตัวสีน้ำตาลแดง ปลายของขนสร้อยคอ ปีก หาง มีสีดำ แข้ง ปาก สีเหลือง ใบหน้าสีแดง หงอนจักร อายุให้ไข่ฟองแรก 147 – 197 วัน น้ำหนักตัวเมื่อให้ไข่ฟองแรก 1,749 – 2,111 กรัม ผลผลิตไข่ 216 – 266 ฟอง/ปี น้ำหนักไข่ 47 – 63 กรัม เป็นไก่กึ่งไข่กึ่งเนื้อ
ไก่ไข่พันธุ์เลกฮอร์นขาว
ไก่ไข่พันธุ์เลกฮอร์นขาวหงอนจักร เป็นพันธุ์ไก่ไข่ที่มีถิ่นกำเนิดทางตอนกลางของประเทศอิตาลี มีเลี้ยงกันแพร่หลายทั่วโลก เป็นไก่ที่ผลิตไข่ออกมาเป็น เปลือกสีขาว เป็นไก่ไข่ที่ดี มีประสิทธิภาพการเปลี่ยนอาหาร ให้เป็นไข่ในอัตราส่วนที่ดี สามารถเลี้ยงปล่อยแบบไก่บ้านของไทยได้ ชอบกินหญ้า และสามารถเปลี่ยนหญ้าไปเป็นไข่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่นิยมเลี้ยงเป็นไก่เนื้อเพราะมีขนาดเล็ก เป็นไก่ไข่พันธุ์ขนาดเล็ก แต่ก็ใหญ่กว่าไก่แจ้พื้นเมือง เริ่มให้ไข่เมื่ออายุ 4-5 เดือนครึ่ง ให้ไข่ปีละประมาณ 280 ฟอง น้ำหนักเมื่อโตเต็มที่เพศผู้หนัก 2.2-2.9 กิโลกรัม เพศเมียหนัก 1.8-2.2 กิโลกรัม ให้ผลผลิตเฉลี่ย ประมาณ 280-300 ฟองต่อปี
เลกฮอร์นขาว
ไก่ไข่พันธุ์ลูกผสมกรมปศุสัตว์
ไก่ไข่พันธุ์นี้ เป็นไก่ลูกผสมพื้นเมือง ที่เกิดจากการผสมข้ามพันธุ์ ใช้พ่อพันธุ์เป็นไก่พื้นเมือง แม่พันธุ์เป็นไก่กึ่งไข่กึ่งเนื้อ เช่น ไก่โร๊ดไอส์แลนด์เรด ไก่บาร์พลีมัทร็อค ไก่เซี่ยงไฮ้ ที่มีสายเลือดของไก่พื้นเมืองในลูกผสม อย่างน้อย 50% จุดประสงค์นั้น เพื่อให้ได้ไก่ลูกผสมที่ใกล้เคียงกับไก่พื้นเมือง ที่มีลักษณะภายนอก สีขน และรสชาติของเนื้อไก่พื้นเมืองแท้
ไก่ไข่พันธุ์นี้ สามารถเลี้ยงได้ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้
ลูกผสมกรมปศุสัตว์
ลักษณะทั่วไป ไก่ลูกผสม ทั้งเพศผู้และเพศเมีย มีขนพื้นลำตัวสีดำ หรือสีแดง มีสีน้ำตาลหรือสีดำแซมเฉพาะลำตัวหรือเฉพาะปลายขน และขนหน้าอก แข้ง ปาก สีเหลือง หรือเหลืองปนดำ หรือดำ ใบหน้าสีแดงหรือแดงปนดำ มีสัดส่วนของลักษณะหงอนจักรในไก่เพศเมีย 5 – 10 เปร์เซนต์ เพศผู้ 15 -20 เปอร์เซนต์ สัดส่วนที่เหลือเป็นหงอนถั่ว
เติบโตเร็ว น้ำหนักตัวเมื่ออายุ 12 สัปดาห์ เพศผู้ 1,619 กรัม เพศเมีย 1,263 กรัม ให้ผลผลิตเฉลี่ย ประมาณ 280-300 ฟองต่อปี
ไก่ไข่พันธุ์ซุปเปอร์ฮาร์โก้
ให้ผลผลิตเฉลี่ย ประมาณ 280-300 ฟองต่อปี บริษัท Tetra ของฮังการีได้พัฒนาสายพันธุ์ Super Harco นี้ขึ้นมาจากสายพันธุ์ไก่สีดำ จึงได้สีขนเป็นสีดำและมีสีเขียวแซมสีน้ำตาลอ่อนให้เห็น ตัวผู้มีขนาดใหญ่กว่าตัวเมีย หน้าอกกว้าง คอสั้นและใหญ่ อุ้งเท้ายาวไม่มีขน นิ้วมีสีเหลืองหรือเทา ทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดี ไม่ส่งผลกระทบต่อผลผลิตของไข่ ในกรณีเลี้ยงในกรง หรือย้ายไปที่ใหม่ ปรับตัวได้เร็ว
ซุปเปอร์ฮาร์โก้
แม่ไก่จะเริ่มให้ผลผลิต เมื่ออายุ 21-22 สัปดาห์ โดยเฉลี่ยแล้ว ไข่แต่ละฟองจะมีน้ำหนัก 65 กรัม แม่ไก่ 1 ตัววางไข่ 220-225 ฟองต่อปี หรืออาจถึง 300 ฟองต่อปี หากเลี้ยงไก่ไว้เพื่อให้ได้ไข่ จำเป็นต้องให้อาหารแยกต่างหาก ไก่ไข่พันธุ์นี้ จะหยุดไข่เมื่ออายุครบ 2 ปี
ไก่ไข่พันธุ์ไฮบริด
ให้ผลผลิตเฉลี่ย ประมาณ 280-300 ฟองต่อปี ไก่ไข่ไฮบริดนี้ เป็นไก่ไข่ลูกผสม ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อผลิตไข่โดยเฉพาะ มุ่งเน้นเพื่อการค้า มีลักษณะลำตัวยาวลึก แต่เล็กกว่าพันธุ์โร้ดไอส์แลนด์เรด ขนมีสีน้ำตาลแซมขาว แข้งขามีสีเหลือง เลี้ยงง่าย กินอาหารน้อย มีอัตรารอดสูง ให้ไข่ดก หากบำรุงดี ๆ อาจได้ 300++ ฟองต่อปี
ไข่มีสีน้ำตาลแดง และขนาดใหญ่กว่าทุกสายพันธุ์ที่กล่าวมาข้างต้น ปัจจุบันเป็นที่นิยมเลี้ยงกันมาก เพราะได้ไข่ใหญ่ เป็นที่ต้องการของตลาดสูง ปัจจุบันมีการปรับปรุงสายพันธุ์ ให้มีความแข็งแรง ทนต่อสภาวะแวดล้อมได้ดี
ไฮบริด
ภาพ : baanlaesuan.com / desigusxpro.com / breeding.dld.go.th
เรียบเรียง : www.kasetorganic.com
ความรู้ด้านการทำเกษตรอินทรีย์ที่น่าสนใจ ล่าสุดในตอนนี้
ปรับปรุงดิน การทำปุ๋ย
เทคนิคการบำรุงดินให้สมบูรณ์
การบำรุงดิน ถือเป็นหัวใจหลักสำหรับการทำเกษตร โดยเฉพาะผู
อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมเกษตรในพื้นที่น้อย
ปลูกต้นไม้และทำเกษตรบนคันดิน Hugelkultur
หมดปัญหาเรื่องพื้นที่น้ำท่วมขัง น้ำท่วมก็ไม่ตายหากเลือก
อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมเทคนิคและวิธีการ
หน้าฝนควรปลูกผักอะไรดี ถึงจะรอด
เข้าหน้าฝน อะไร ๆ ก็จะดูเฉอะแฉะไปหมด ปลูกผักหน้าฝน คิดง
อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมเกษตรในพื้นที่น้อย
สวนเกษตรแนวตั้งทำอย่างไรถ้ามีพื้นที่น้อย
สวนเกษตรแนวตั้ง แนวคิดยอดนิยมสำหรับคนเมืองที่อยากมีแปลง
อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมการขยายพันธุ์พืช
ปลูกกล้วยแบบผ่าหน่อ ทำง่าย ได้ต้นเยอะ
การปลูกกล้วยแบบผ่าหน่อ เริ่มแนวคิดนี้จากบทความของ คุณคม
อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมการขยายพันธุ์พืช
ทำอย่างไรให้ต้นไม้มีใบด่าง มีวิธีจริงหรือไม่
ยุคนี้อยากรวยเร็ว ถ้าไม่ดวงดีถูกหวยจริงๆ ก็ต้องค้าขายไม
อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม
เทคนิค วิธีการ
พื้นที่น้อย
การทำปุ๋ย
ขยายพันธุ์พืช