แก้วมังกร เป็นผลไม้นอกสายตาของนักเกษตร มีน้อยบ้านที่จะปลูกไว้ หากดูตามสภาพ ต้นมะม่วงหาว มะนาวโห่ ยังมีเกือบทุกบ้าน แต่แปลกที่ต้นแก้วมังกรแทบจะนับหลังคาได้ ทั้งที่ปลูกและดูแลง่ายกว่า กลับไม่ค่อยมีให้เห็น
จริง ๆ แล้ว แก้วมังกร มีวิธีการปลูกที่ง่าย และไม่ยุ่งยาก ที่สำคัญ ผลไม้ชนิดนี้ สามารถทำให้ออกผลผลิตนอกฤดูกาลได้ด้วย ซึ่งใช้เทคนิคในการปลูกแก้วมันกรนอกฤดู ทำให้ได้ผลผลิต ซึ่งจะเขียนเนื้อหาไว้ในคราวหน้า
ก่อนที่จะเริ่มปลูก ผู้เขียนอยากเกริ่นเรื่องราวในอดีตก่อน ในตอนทำเว็บนี้ใหม่ ๆ และศึกษาเรื่องการทำเกษตรอินทรีย์มาเบื้องต้นแล้ว แก้วมังกร ก็เป็นพืชชนิดแรกที่ได้ลงมือปลูก ก่อนพืชจำพวก ข่า ตะไคร้ ใบกระเพราด้วยซ้ำ เพราะเข้าใจผิดว่าคือตะบองเพชร (ซึ่งจริง ๆ แล้วก็เป็นพืชที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน)
แต่เพราะในตอนนั้น ยังเป็นต้นที่ไม่สูงมาก และปลูกลงกระถางไว้ ปีนั้นน้ำมาก พอท่วมประมาณหัวเข่า มันก็จมไม่เหลือ แถมยังจมนาน จนเน่าตายหมด แม้จะพยายามยื้อ แล้วนำมาเก็บไว้ให้พ้นน้ำ เพราะคิดว่าน้ำคงจะไม่สูงไปกว่านี้ สรุปก็ท่วมไปเรียบร้อย ที่เหลือก็ลอบไปกับน้ำหมด ที่เพาะไว้แอบ ๆ ก็ตายเรียบ สุดท้ายเลยไม่เห็นผลผลิต จำเป็นต้องหามาปลูกใหม่
แก้วมังกร ปักชำจากท่อนพันธุ์ โตเร็วกว่าเพาะเมล็ด
ท่อนพันธุ์แต่แรกเริ่ม มาจากพี่ใจดีที่ทำงาน แค่เอ่ยปากแกก็ใจดีขนต้นพันธุ์ดี และผลแก้วมังกรโต ๆ ทั้งสีขาว และสีม่วง รวมแล้วให้มา 2 ถุงใหญ่ กิ่งพันธุ์มีทั้งติดลูกเรียบร้อยแล้ว กับที่กำลังออกตาดีด้วย ต้นที่ติดผล สุกงอมน่ารับประทาน เลยกะว่า จะวางโครงการใหญ่ ใช้เสารั้วเป็นที่ปลูก ว่าแล้วก็ลองนำเมล็ดแก้วมังกรมาเพาะตามสูตรดู
แก้วมังกรแต่ละพันธุ์ มีกี่สี่ : ปกติจะมี 3 แบบ คือ 1 แก้วมังกรพันธุ์เนื้อขาวเปลือกแดง รสชาติหวานอมเปรี้ยว แบบที่ 2 แก้วมังกรพันธุ์เนื้อขาวเปลือกเหลือง ให้รสชาติหวาน และแบบที่ 3 แก้วมังกรพันธุ์เนื้อแดงเปลือกแดง ให้รสชาติหวานกว่าพันธุ์อื่น
แม้ความเสี่ยงจากการเพาะเมล็ดจะมีโอกาสกลายพันธุ์สูง แต่ถึงอย่างนั้น ก็มีต้นพันธุ์อยู่แล้ว (แต่ถ้าไม่ได้ทำเครื่องหมายว่า พันธุ์ที่ได้มีผลเป็นสีอะไรก็ต้องเดากันไป จนกว่าจะได้ผลผลิต) การเพาะเมล็ด ต่อให้กลายพันธุ์เป็นต้นที่ไม่มีลูก หรือมีลูก แต่รับประทานไม่ได้ ก็ยังดีที่ยังเป็นต้น เพราะหากใช้วิธีเสียบยอด ยังไงก็ยังได้พันธุ์ดีอยู่
ทดลองเพาะเมล็ดแก้วมังกรแบบไม่ใช้ดิน ดูเทคนิคได้ที่ เพาะเมล็ดโดยไม่ใช้ดิน
ต้นอ่อนแก้วมังกร
ต้นอ่อนแก้วมังกรที่สามารถย้ายลงปลูกได้
วิธีเพาะเมล็ดแก้วมังกรแบบไม่ใช้ดิน
จัดการขูดเมล็ดออก และแยกเนื้อกับเมล็ดให้ออกจากกัน หากเอาเนื้อไปเพาะด้วยจะขึ้นราและเน่าได้ง่าย ใช้กระชอนหรือตะแกรงตาถี่ หรือถ้าไม่มี ผ้าขาวบางก็ได้ ขยี้ ๆ เบา ๆ ให้เนื้อหลุดออกจากเมล็ด แล้วตักเมล็ดสีดำ ๆ ที่ได้ ล้างและเก็บแยกไว้อีกที
เมล็ดที่ได้ จะแช่น้ำยาเร่งราก หรือแช่น้ำ ผสมเครื่องดื่มชูกำลัง (น้ำ 1 แก้วต่อเครื่องดื่มชูกำลัง 1 ฝา) ก็ได้ เวลานำมาเพาะ ใช้กระดาษชำระรอง แล้วนำเมล็ดแก้วมังกร มาวางลงบนกระดาษชำระ สเปรย์น้ำให้พอเปียก ไม่ต้องชุ่มมาก กระดาษจะเป็นตัวช่วย เพื่อเก็บความชื้น
ปิดฝาแล้วรอ ประมาณไม่เกิน 2 สัปดาห์ ก็ได้ผลเป็นลำต้นให้ชื่นชมกัน
ระยะงอกของแก้วมังกร จากเมล็ดเป็นต้นอ่อนจะเร็วมาก แต่เมื่อเป็นต้นแล้ว จะโตช้ามาก จึงเป็นเหตุให้น้ำท่วมในครั้งที่แล้ว เลยต้องเอาใหม่อีกรอบ
เคล็ดลับ การผสมเกสรแก้วมังกร ให้ได้สายพันธุ์เป็นของตัวเอง
มีน้าท่านนึงให้เคล็ดลับเล็ก ๆ เอาไว้ ว่าเมื่อแก้วมังกรติดดอก และพร้อมจะบานแล้ว ให้ไปแหวกดอกให้บาน ช่วงซักประมาณ 4 ทุ่ม แล้วทำการตัดเอาเกสรตัวผู้ออกมา อย่าให้โดนเกสรตัวเมีย และกลับไปนอน
พอตี 4 ก็ตื่นมาเอาพู่กันเขี่ยเกสรตัวผู้อีกสายพันธุ์หนึ่งที่ต้องการ ไปผสมกับดอกที่ไปแหวกไว้ตอน 4 ทุ่ม ผสมแล้วก็หุบปากดอกไว้ให้สนิท (เพื่อเกสรตัวผู้ที่ไม่ต้องการ จะได้ปลิวมาผสมซ้ำไม่ได้) แล้วกลับไปนอนรอ
รอจนดอกนั้นติดผล แล้วก็ลุ้นเอาเมื่อผลสุก อย่าลืมห่อลูกไว้ด้วย กันนกมาจิกกิน พอสุกแล้ว ลองเอาเมล็ดมาเพาะดู ผลผลิตอาจจะออกช้าหน่อย ประมาณ 2 ปีขึ้นไป
กว่าจะรู้ว่าพันธุ์ดีหรือไม่ ใช้เวลาซักหน่อย แต่ถ้าได้ดีก็คุ้มอยู่ ลองดูไม่เสียหาย
เพื่อได้ต้นอ่อนแก้วมังกรแล้ว เปิดฝาถาดเพาะ ทิ้งไว้ในร่มอีกประมาณ 1-2 สัปดาห์ อาจสเปรย์น้ำให้บ้าง ป้องกันรากแห้ง
และเมื่อได้ต้นที่แข็งแรงพอแล้ว ก็นำลงถุงเพาะ หรือจะลงดินเลยก็ได้ เพราะต้นแก้วมังกรสามารถปลูกได้ในทุกสภาพดิน เช่น ดินปนทราย, ดินเหนียว, ดินลูกรัง
สำหรับดินเหนียว และดินลูกรัง จำเป็นจะต้องมีการปรับหน้าดินด้วยการใส่ปุ๋ยคอกและแกลบดำ ในปริมาณหนึ่ง
ต้นแก้วมังกร เป็นต้นไม้ที่ชอบอาศัยอยู่ในดินโปร่ง ร่วนซุย ไม่แน่นจนเกินไป และต้องระบายน้ำได้ดี ไม่อย่างนั้นจะเน่าเอาง่าย ๆ
ด้วยความที่แก้วมังกร เป็นพืชตระกูลตะบองเพชร จึงเป็นพืชที่ชอบอากาศร้อนและแดดจัด การปลูกแก้วมังกร จึงควรเตรียมพื้นที่ให้เป็นที่ โล่ง แจ้ง ไม่มีร่มเงาของต้นไม้อื่นมาบังแก้วมังกรจะสามารถเจริญเติบโตได้ดี และออกดอกออกผลได้ดีมาก
การเพิ่มผลผลิตแก้วมังกร
นำ จุลินทรีย์ EM มาผสมกับ กากน้ำตาล และน้ำ รดเป็นระยะ ๆ สัปดาห์ละครั้ง หรือใช้ จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง รดแทนน้ำได้ทุกวัน เมื่อต้นแก้วมังกรแตกกิ่งออกมาเป็นจำนวนมาก ควรตัดทิ้งให้หมด และปล่อยให้ต้นหลัก เติบโตไปจนขึ้นค้างได้ ค่อยปล่อยกิ่งที่แตกออกให้กระจายไปทั่วค้าง เพื่อความสมดุล
ควรมัดกิ่งให้อยู่กับค้าง หรือนั่งร้าน เวลามีผลผลิตมาก ๆ กิ่งจะได้ไม่หัก หรือหลุดออกจากค้าง
โรคต่างๆ ที่อาจเกิดกับต้นแก้วมังกร
โรคโคนเน่า สาเหตุที่ทำให้เกิดโรค เนื่องจากการให้น้ำมากจนเกินไป ควรให้น้ำในอัตราที่เหมาะสม สังเกตุดิน ลองขุดดินที่ปลูกให้ลึกประมาณ 1-2 นิ้ว ถ้ายังมีความชื้นอยู่ ก็ไม่ต้องให้น้ำบ่อย
การเกิดโรค หากต้นแก้วมังกรเป็นโรคแล้ว ให้ปาดเนื้อที่เน่าออก แล้วนำปูนแดง (ปูนกินหมาก) ทาที่แผล หรือใช้ยาป้องกันเชื้อราทาก็ได้
ศัตรูตัวฉกาจของต้นแก้วมังกร คือ มดคันไฟกัดยอดอ่อน หากมีมดมาก่อกวน ให้ใช้ยาฆ่ามด หรือยาฉีดยุงกำจัด บริเวณรังมด และทำให้พุ่ม ค้าง หรือนั่งร้านแก้วมังกร ให้โปร่ง และโล่งอยู่เสมอ
หวังว่าเนื้อหานี้จะเกิดประโยชน์กับทุกท่านที่อยากปลูก ต้นแก้วมังกร
ความรู้ด้านการทำเกษตรอินทรีย์ที่น่าสนใจ ล่าสุดในตอนนี้
เทคนิคและวิธีการ
การเพาะเห็ดฟางแบบกองสูงสร้างรายได้
วิธีการเพาะเห็ดฟางแบบกองสูง คล้ายการเพาะแบบกองเตี้ย แต่
อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมการเลี้ยงสัตว์
เลี้ยงกุ้งเครฟิช เริ่มต้นอย่างไร
อยากเลี้ยงกุ้ง แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร เรามีคำตอบสำหรับ
อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมสายพันธุ์ข้าวไทย
รู้จักข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวดีของคนไทย
ในช่วง 5-10 ปีที่ผ่านมานี้ ถ้าถามว่ารู้จัก ข้าวไรซ์เบอร
อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมเทคนิคและวิธีการ
ปลูกพริกขี้หนูสวนยังไงให้ลูกดกเต็มต้น เทคนิค วิธีการ
ปลูกพริกขี้หนูให้ดก แต่พอปลูกแล้วก็ไม่ขึ้น หรือขึ้นแล้ว
อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมเทคนิคและวิธีการ
การปลูกถั่วฝักยาวแบบพอเพียง ทำได้จริงหรือไม่
ถั่วฝักยาว เป็นผักสวนครัวรั้วกินได้อีกหนึ่งชนิดที่น่าปล
อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมเทคนิคและวิธีการ
หน้าฝนควรปลูกผักอะไรดี ถึงจะรอด
เข้าหน้าฝน อะไร ๆ ก็จะดูเฉอะแฉะไปหมด ปลูกผักหน้าฝน คิดง
อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม
เทคนิค วิธีการ
พื้นที่น้อย
การทำปุ๋ย
ขยายพันธุ์พืช