หลังจากผ่านพ้นช่วงน้ำท่วมไปแล้ว พริกในสวนโดนน้ำท่วมไป 1 อาทิตย์เต็มๆ อย่างน้อยน้ำก็ไม่ขังนาน ทำให้พริกยังพอมีเก็บอยู่บ้าง ตั้งแต่พริกขี้หนูสวนที่ปลูกแบบธรรมชาติไปจนถึงพริกชี้ฟ้าผลใหญ่ ที่ก่อนนั้นออกดอกผลชูช่อท้าให้เก็บไปทำอาหารเต็มต้น
เมื่อจำต้องเก็บพริกมาไว้เพราะต้นพริกอาจไม่รอด จึงได้เม็ดพริกมาเต็มกระบุง จะทำอะไรกับมันดี นึกแล้วก็เปรี้ยวปาก อยากทำน้ำพริกกินเองซะเลย ไหนๆ ก็มีเยอะจนแจกไม่ไหว เอาที่ชอบกินนี่แหละ กับเมนู..
- น้ำพริกกะปิทำเองจากสูตรภาคกลาง
- น้ำพริกอ่องสูตรเชียงใหม่แท้
ด้วยพริกจากสวนหลังบ้านเราเอง มาดูว่าแต่ละสูตรและวิธีการทำน้ำพริกที่ว่ามานี้ มีอะไรกันบ้าง
น้ำพริกกะปิจากกรุงเทพฯ ภาคกลาง
เอาจริงๆ สูตรที่จะทำให้น้ำพริกกะปิอร่อยนั้น เคล็ดลับคือกะปิตัวเดียวเลย ถ้าได้กะปิที่ดีมีคุณภาพ จะทำให้น้ำพริกกะปิถ้วยนั้นอร่อยไม่รู้ลืม สำหรับสูตรน้ำพริกกะปิแต่ละภาคนั้นแตกต่างกันออกไป เริ่มตั้งแต่ทางภาคตะวันออกมักชอบใช้กะปิที่ทำจากกุ้งตัวใหญ่ เลยให้ความรู้สึกว่าเนื้อน้ำพริกจะฟู ออกสีส้มๆ
ส่วนกะปิทางภาคใต้จะทำจาก “เคย”
เคย หรือ เคอย เป็นชื่อกุ้งขนาดเล็กหลายชนิดมีหลายสกุล มีขนาดลำตัวยาวไม่เกิน 3.4 ซม. มีหนวด 2 แฉก ลำตัวแบนข้าง เปลือกบางใส เนื้อยุ่ย เหมาะสำหรับใช้หมักเกลือทำกะปิและน้ำเคย
และกะปิที่ทำจากเคยนี้ จะมีสีออกคล้ำๆ หลายคนชอบรสชาติ สำหรับผู้เขียนก็ชอบเหมือนกัน แต่จะใช้กะปิเคย ผสมกับกะปิจากทางภาคกลางที่ทำจากกุ้งตัวเล็กๆ ซึ่งจะให้สีสันไม่คล้ำมาก แต่ก็ไม่สีสด เรียกว่า ดูน่ารับประทานเลยล่ะ
ส่วนผสมสำหรับทำน้ำพริกกะปิสูตรกรุงเทพฯ หรือสูตรทางภาคกลาง
- กระเทียมกลีบเล็กแบบปอกเปลือก 20 กลีบ (บางแห่งใส่ทั้งเปลือกเลย)
- กะปิเคยครึ่งช้อนโต๊ะ และกะปิทั่วไปครึ่งช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1-1.5 ช้อนโต๊ะ (ถ้าชอบหวานใส่ตามชอบ)
- พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด หรือตามชอบ
- มะนาว 1-2 ลูก ชอบก็ใส่เข้าไปอีก
- มะม่วงเปรี้ยวสับ (ถ้าชอบเปรี้ยวและให้น้ำพริกมีเนื้อและรสสัมผัสดีขึ้น)
- น้ำต้มสุก 1-2 ช้อนโต๊ะ
- หอมแดงซอย (หอมแดงจะเป็นสูตรสำหรับคนทางใต้ แต่ทางภาคกลางจะไม่ใส่หอมแดง ซึ่งแล้วแต่ชอบ)
- มะเขือพวง 2-3 ลูก จะไม่ใส่ก็ได้
วิธีทำน้ำพริกกะปิ
นำกะปิปั้นเป็นก้อนย่างไฟอ่อนพอให้หอม จากนั้นนำกระเทียมและพริกมาโขลกให้พอแหลก บางสูตรจะตำกระเทียมกับกะปิให้เข้ากันก่อน แต่สำหรับผู้เขียนนั้น บอกไปแล้วว่าน้ำพริกกะปิจุดเด่นคือกะปิ ถ้าตำแหลกมากเนื้อจะฟูและสีคล้ำ ผู้เขียนจึงใช้กะปิย่างไฟใส่ตำหลังตำพริกกับกระเทียมแหลกแล้ว
ใส่ตามไปด้วยน้ำตาลปี๊บแล้วตำต่อให้เข้ากัน หากใครอยากให้เผ็ดเพิ่มก็ใส่พริกเพิ่มลงไปในขั้นตอนนี้ หรือถ้าชอบสูตรน้ำพริกกะปิแบบใส่หอมแดง หรือมะม่วงสับ หรือมะเขือพวง ก็ใส่ไปเลยในขั้นตอนนี้ แล้วตำพอแหลกอีกครั้ง ถ้าไม่ใส่อะไรเพิ่มอีก ก็บีบมะนาวตามลงไปได้เลย พร้อมกับชิมรสชาติให้ได้น้ำพริกกะปิตามที่ชอบ ก็เป็นอันเสร็จวิธีทำ หากมีรสจัดเกินให้ใส่น้ำต้มสุกเพิ่มได้จะทำให้เนื้อน้ำพริกกะปิไม่เหนียวข้นเกินไป
ขอบคุณภาพ กะปิปิ้งย่าง จาก www.goodlifeupdate.com/healthy-food/169627.html
เคล็ดลับที่จะทำให้น้ำพริกกะปิอร่อย
จะสังเกตุว่าน้ำพริกกะปิจะไม่ใส่น้ำปลา ถ้าอยากได้รสเค็มเพิ่ม (ปกติรสเค็มจะได้จากกะปิอยู่แล้ว) ให้ใส่เกลือแทนน้ำปลา เพราะน้ำปลาจะมีกลิ่น ทำให้กลิ่นคาวไปดับกลิ่นกะปิจนหมด การใส่น้ำปลาจะทำให้น้ำพริกกะปิเสียรสชาติที่ดี
น้ำพริกกะปิที่อร่อย ควรรับประทานกับผักสด ผักลวกหรือต้ม และที่ขาดไม่ได้คือ ปลาทูนึ่งหรือทอด และข้าวสวยร้อนๆ เท่านี้ก็จะได้รับคุณค่าทางโภชนาการที่ครบถ้วน ทั้งโปรตีนจากเนื้อปลา วิตามินและแร่ธาตุจากผักหลายชนิด อร่อยและได้สุขภาพไปพร้อมๆ กัน
น้ำพริกอ่องสูตรเชียงใหม่แท้
ด้วยสูตรและส่วนผสมอาจดูคุ้นๆ สำหรับคนภาคกลาง แต่นี่คือสูตรจากเชียงใหม่แท้ๆ ที่เป็นการผสมผสานกันระหว่าง น้ำพริกอ่องไก่และน้ำพริกอ่องหมู เอาเป็นว่าเลือกเนื้อสัตว์กันได้ตามชอบ และทำตามนี้
ส่วนผสมสำหรับทำน้ำพริกอ่อง
- พริกขี้หนูแห้ง แช่น้ำให้นิ่ม 2-3 เม็ด ปกติน้ำพริกอ่องจะไม่เผ็ด ถ้าใครชอบเผ็ดใส่พริกเยอะๆ
- พริกชี้ฟ้าแห้ง ผ่าแล้วเอาเมล็ดออก นำไปแช่น้ำเช่นกัน 4-5 เม็ด หรือเอาตามชอบ
- กระเทียมปอกเปลือก
- หอมแดงปอก
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
- เนื้อไก่ลอกหนังสับละเอียด หรือเนื้อหมูบด 200 กรัม
- มะเขือเทศ หั่นชิ้นเล็ก 200 กรัม
- ต้นหอมซอย 2 ต้น
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำพริกแกงเผ็ด ถ้าชอบความเผ็ด ใส่ก็ได้ไม่ใส่ก็ได้
- ผักเครื่องเคียงเอาตามชอบเท่าที่มี
วิธีทำน้ำพริกอ่องสูตรทางภาคเหนือ
หากชอบความสะดวก ใช้น้ำมันพืชใส่ลงในกระทะ ตั้งไฟอ่อน นำน้ำพริกแกงเผ็ดสำเร็จรูปลงผัดกับหมูบดและมะเขือเทศสับ ผัดจนเนื้อหมูพอสุก ใส่มะเขือเทศตามลงไป ผัดให้มะเขือเทศสับพอนิ่มแล้วปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย น้ำปลา น้ำมะขามเปียก ก่อนยกลงโรยด้วยต้นหอมซอย แล้วตักใส่จานพร้อมเสริฟ
แต่หากไม่ใช้น้ำพริกแกงเผ็ด และชอบความสนุกในการโขลก ก็จัดเลยโดยการโขลกพริกขี้หนูแห้ง พริกชี้ฟ้าแห้ง กระเทียม และหอมแดงให้ละเอียด
เสร็จแล้วตั้งกระทะ ใช้ไฟอ่อน ใส่น้ำมันพืชและส่วนผสมที่โขลกไว้ลงไปผัดให้หอมเลย จากนั้นใส่เนื้อลงไปผัดพอสุก เติมมะเขือเทศสับลงไปผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำมะขามเปียก ผัดต่อจนสุก ก่อนยกลงใส่ต้นหอมซอยลงไปแล้วตักใส่จาน หรือจะตักใส่จานก่อนแล้วโรยด้วยต้นหอมซอย
น้ำพริกอ่องสูตรนี้ กินกับข้าวสวยร้อนๆ พร้อมผักในสวนหลายอย่าง เรียกว่า อร่อยเหาะเลยแหละ ยิ่งถ้ามีผักสวนครัวรั้วกินได้ ที่ควรมีไว้ติดบ้าน จำพวก มะเขือเปราะ แตงกวา ผักกาด ถั่วฝักยาว หรือถั่วพู รับรองว่ามื้อนี้วางจานไม่ลงแน่นอน
สำหรับวันนี้ก็แอบแนะนำกันไปสองสูตร กับวิธีทำน้ำพริกที่ผู้เขียนชอบทำรับประทานเองที่บ้านบ่อยๆ ส่วนใหญ่จะเป็นสูตรน้ำพริกสองชนิดนี้ เบื่อน้ำพริกอ่องจากเชียงใหม่ ก็ทำน้ำพริกกะปิด้วยสูตรจากคนกรุงเทพฯ ก็อร่อยไม่จำเจดี
ใครอยากจะเอาสูตรไปลองทำก็ไม่หวงนะ รับรองว่าไม่จำเจกับอาหารในแต่ละวันแน่นอน
ความรู้ด้านการทำเกษตรอินทรีย์ที่น่าสนใจ ล่าสุดในตอนนี้
เทคนิคและวิธีการ
ปลูกมะยงชิดต้นเดียว รวยได้จริงไหม ถ้ามีลูกปีละหน
มะยงชิด เป็นผลไม้ที่ปลูกแล้วได้กิน ปีละหน แม้จะนานไปหน่
อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมเกษตรในพื้นที่น้อย
ปลูกต้นไม้และทำเกษตรบนคันดิน Hugelkultur
หมดปัญหาเรื่องพื้นที่น้ำท่วมขัง น้ำท่วมก็ไม่ตายหากเลือก
อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมการขยายพันธุ์พืช
การปักกิ่งชำในขวดให้พืชงอกเร็ว รอดตายสูง ทำอย่างไร
เทคนิคขยายพันธุ์พืชด้วยการปักชำกิ่งพืชในขวด เป็นวิธีแบบ
อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมเทคนิคและวิธีการ
ปลูกถั่วฝักยาวแบบอินทรีย์
ถั่วฝักยาว สามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินแทบจะทุกชนิด แต่ท
อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมเทคนิคและวิธีการ
สร้างรายได้ด้วยการปลูกสละ
จากข้อมูลที่แนะนำเข้ามา ว่าการปลูกสละ สามารถสร้างรายได้
อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมปรับปรุงดิน การทำปุ๋ย
จุลินทรีย์ที่ใช้ทำเกษตรอินทรีย์
จุลินทรีย์ที่ใช้ทำเกษตร ปกติการทำเกษตรอินทรีย์พื้นฐานง่
อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม
เทคนิค วิธีการ
พื้นที่น้อย
การทำปุ๋ย
ขยายพันธุ์พืช