สร้างรายได้ด้วยการปลูกสละ

จากข้อมูลที่แนะนำเข้ามา ว่าการปลูกสละ สามารถสร้างรายได้ ได้ตลอดทั้งปีนั้น สอบถามไปยังคุณลุงสว่าง รักทอง

เกษตรกรบ้านม้าเงย ต.ป่าชิง อ.จะนะ จ.สงขลา ผู้มีอาชีพปลูกสละ ได้แนะนำเอาไว้ว่า แค่เพียงมีพื้นที่รอบบ้านประมาณ 3 ไร่ สามารถปลูกสละพันธุ์อินโดจีนได้มากกว่า 200 ต้น และสามารถเก็บขายสร้างรายได้ ได้ตลอดทั้งปีเป็นเรื่องจริง

ส่วนเทคนิคการปลูกสละเพื่อสร้างรายได้ ก็ทำได้ไม่ยาก

ลักษณะของ ผล และต้น สละ

สละ ภาษาอังกฤษ Salak, Zalacca ชื่อวิทยาศาสตร์ Salacca zalacca เป็นพืชที่จัดอยู่ในวงศ์ปาล์ม และอยู่ในสกุลเดียวกับ ต้นระกำ

แหล่งกำเนิด สละ เป็นพืชพื้นเมืองของประเทศอินโดนีเซีย มีมากมายกว่า 30 สายพันธุ์ โดยพันธุ์ที่นิยมรับประทานมากที่สุดคือ สละอินโด หรือสละพันธุ์ปนโดะห์ (Salak pondoh) ต้นกำเนิดจากเมืองยอร์กยาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย

เนื่องจากสละพันธุ์นี้ จุดเด่นคือ มีรสหวาน และกลิ่นหอม ที่ชวนหลงไหลน่ารับประทาน

อีกสายพันธุ์หนึ่งที่นิยมไม่แพ้กันคือ สละพันธุ์บาหลี (Salak Bali) จากเกาะบาหลี เป็นที่รู้กันว่า ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวต่างถิ่น เพราะรสชาติหวานอมเปรี้ยว และเนื้อเยอะ

ต้นสละ จะมีหนามแข็งแหลมออกจากก้านใบ ดอกแยกเพศสีน้ำตาล โดยสละออกผลเป็นทะลายเรียกว่า “คาน” ซึ่งในแต่ละคานก็จะมีทะลายย่อยซึ่งเราจะเรียกว่า “กระปุก”

ต้นสละ

ผลสละ ลักษณะของผลเป็นรูปทรงรียาว ผลอ่อนเป็นสีน้ำตาล ส่วนผลแก่เป็นสีแดงอมน้ำตาล เปลือกเป็นเกล็ดซ้อนกัน และบนผลมีขนแข็งสั้นคล้ายหนาม

เทคนิคการปลูกสละ
เทคนิคการปลูกสละ

สายพันธุ์สละที่นิยมปลูกในประเทศไทย

สละพันธุ์พื้นเมืองของไทยเอง ก็มีอยู่หลายสายพันธุ์ เช่น สละเนินวง (ผลหัวท้ายเรียว สีส้มอมน้ำตาล มีหนามยาว ผลดิบรสฝาด ส่วนผลสุกมีรสหวานหอม), สละหม้อ (ผลยาว ปลายแหลมเป็นจะงอย และเปลือกมีสีแดงเข้ม), สละสุมาลี (ผลป้อมสั้น เนื้อมีส้มคล้ายระกำ ทรงต้นยังคล้ายระกำ)

รวมไปถึง สละอินโด และ สละพันธุ์บาหลี ที่เป็นสายพันธุ์ต่างถิ่น ก็นิยมนำมาปลูกเพื่อสร้างรายได้ในประเทศไทยเช่นเดียวกัน

ความแตกต่างระหว่าง สละกับระกํา

ต้นและผลสละ กับ ระกำ ต่างกันอย่างไร คำตอบคือ

ความแตกต่างระหว่าง สละ กับ ระกำ

ผลสละ

  • ออกเป็นทะลาย
  • เปลือกสีเคล้ำออกน้ำตาล
  • หนามที่เปลือกไม่แข็งและเยอะ
  • ลักษณะผล จะยาว เนื้อเยอะ
  • เนื้อเป็นสีเหลืองอ่อน
  • ผลมี 1-2 กลีบ
  • เมล็ดเล็ก มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว
  • แกะรับประทานง่าย
  • ลักษณะต้นสละ ใบจะสั้น
  • ลำต้นเตี้ย

ผลระกำ

  • ผลออกเป็นทะลาย
  • ลักษณะผล ป้อม ๆ กลม และอ้วน
  • เปลือกหุ้มผลเป็นเกล็ดสีน้ำตาลหรือดำ
  • ผลแก่จะเป็นสีแดง
  • หนึ่งผลจะมีกลีบ 2-3 กลีบ เนื้อน้อย มีสีเหลืองอมส้ม
  • รสชาติเปรี้ยวมาก เมล็ดใหญ่
  • เปลือกมีหนามเยอะ
  • แกะรับประทานยาก
  • ลักษณะใบจะยาว ลำต้นสูง
  • ลำต้นมีหนามยาว

เทคนิคการปลูกสละเพื่อสร้างรายได้

การปลูกเพื่อให้ได้ผลผลิตทั้งปี คือ ให้ทิ้งระยะปลูกแต่ละรุ่น ให้ห่างกันประมาณ 1-2 เดือน ทั้งนี้ ก็เพื่อให้สละติดดอก และออกผลได้เรื่อย ๆ รุ่นแรกให้ผลผลิตแล้ว รุ่นต่อไปก็ตามมา ทำได้ตลอดทั้งปี

ส่วนการบำรุงดินนั้น ใช้เศษพืชผักท้องถิ่นเพื่อเป็นปุ๋ยบำรุงลำต้น และใช้น้ำหมักชีวภาพ ที่ทำจากฟักทอง กล้วยน้ำว้า และมะละกอ ฉีดบำรุงดอกเพื่อเพิ่มความหวานให้เพิ่มเติม

ที่สำคัญสุดคือ ต้องหมั่นผสมเกสรตัวผู้กับตัวเมียเอง เพื่อช่วยเพิ่มผลผลิต หากเกษตรกรผู้เพาะปลูกไม่ขยันทำในส่วนนี้ ปล่อยตามมีตามเกิด รับรองว่าได้ผลผลิตไม่เพียงพอกับความต้องการอย่างแน่นอน

การให้น้ำ

สละต้องการน้ำ จึงควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอทุก 3 วัน โดยเฉพาะช่วงหน้าแล้ง ดินแห้ง ถึงแม้สละจะเป็นพืชที่ชอบน้ำ แต่การให้น้ำจนแฉะอาจทำให้รากเน่าตายได้

การใส่ปุ๋ยอินทรีย์

ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยคอก ผสมน้ำหมักชีวภาพ รดโคนเดือนละ 2 ครั้ง หรือฉีดพ่นทางใบ เพื่อช่วยให้สละติดลูกได้ดีขึ้น 

การแต่งกอ

ใบที่แก่ เหี่ยวเฉา ควรตัดออกให้โคนโล่ง ระบายอากาศได้ดี อาจนำใบที่ตัดทิ้งมากองรวมกันตรงด้านใดด้านหนึ่ง เพื่อใช้เป็นปุ๋ยอินทรียวัตถุ รักษาความชื้นในดินอีกต่อ

การผสมเกษร

สิ่งจำเป็นอย่างมาก หากต้องการผลผลิตที่ดก และดีมีคุณภาพ ต้องช่วยผสมเกษร โดยการเก็บดอกตัวผู้จากต้นอื่น นำมาเคาะใส่ดอกตัวเมียที่เริ่มบาน ละอองจากช่อดอกตัวผู้ 1 ดอกสามารถใช้ผสมดอกตัวเมียได้ประมาณ 5 ดอก สำหรับเกสรตัวผู้หากเก็บไว้ในช่องแช่แข็งจะอยู่ได้นาน 6 – 8 เดือน

เทคนิคการปลูกสละ

เทคนิคการปลูกสละ จากผู้เชี่ยวชาญ

อาจารย์เจษฎา เบญจวรากูร อดีตข้าราชการครู สังกัดกรมสามัญศึกษา ในพื้นที่อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง และที่ตำบลย่านตาขาว อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง

ในสมัยนั้น อาจารย์เอง เป็นครูผู้สอนวิชาชีววิทยา หมวดวิชาวิทยาศาสตร์ หลังจากตนเองหยุดอาชีพการเป็นครู ก็ได้ผันตัวเองมาเป็นชาวสวนอย่างเต็มตัว โดยเริ่มต้นด้วยการดูแลสวนยางพารา ในพื้นที่อำเภอย่านตาขาว ซึ่งเป็นพื้นที่บ้านเกิดของตนเอง จากนั้น ก็ได้ศึกษาการทำสวนแบบผสมผสาน และพืชพันธุ์ต่างๆ ที่สามารถปลูกร่วมกับสวนยางพาราได้

จนกระทั่งได้มารู้จักกับผลไม้อย่างสละสายพันธุ์อินโดนีเซีย และทำให้เกิดความชื่นชอบในความแปลก เพราะมีรสชาติที่อร่อยและแตกต่างไปจากสละทั่วไป เนื่องจากเนื้อของผลจะมีสีขาว และมีเมล็ดสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำ

แต่มีความพิเศษตรงที่เนื้อของผลนั้นจะไม่ติดเมล็ด ทำให้มีรสชาติหวาน กรอบ อร่อย น่ารับประทาน ดังนั้น เมื่อประมาณปี 2546 อาจารย์เจษฎา จึงได้ติดต่อขอนำสละสายพันธุ์อินโดนีเซีย มาจากชาวสวนสละในจังหวัดนราธิวาส

หลังจากนั้นได้นำต้นกล้าซึ่งมีราคาต้นละ 50 บาท มาปลูกลงในระหว่างร่องของสวนยางพารา ที่เป็นพื้นที่กว้างมากพอสำหรับการปลูกต้นสละสายพันธุ์อินโดนีเซีย โดยเนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ สามารถปลูกได้ทั้งหมด 780 ต้น

สำหรับวิธีการปลูกนั้น จะขุดหลุดขนาดกว้าง 50 ซม. คูณ 50 ซม. จากนั้น รองก้นหลุมด้วยสารโบกาฉิและอีเอ็ม หลุมละประมาณครึ่งกิโลกรัม แล้วทิ้งไว้ 7 วัน ก่อนที่จะนำต้นกล้าลงปลูก แล้วรดน้ำวันละ 1 ครั้ง และใส่ปุ๋ยเดือนละ 1 ครั้ง

และเมื่อต้นสละมีอายุได้ 2 ปี ก็จะเริ่มออกดอก แต่การที่สละสายพันธุ์อินโดนีเซียจะออกผลได้นั้น เกษตรกรจะต้องช่วยในการผสมเกสร ระหว่างดอกตัวผู้กับดอกตัวเมีย ซึ่งแต่ละต้นก็จะให้ดอกที่ไม่เหมือนกัน โดยการนำเกษรตัวผู้เคาะใส่ในจาน แล้วใช้พู่กันป้ายไปยังเกษรตัวเมีย

กระทั่งเมื่อเข้าสู่ปีที่ 3 สละก็จะเริ่มให้ผลผลิต ซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 3 เดือนต่อครั้ง หรือปีละ 4 ครั้ง โดยมีราคาจำหน่ายอยุ่ที่กิโลกรัมละ 70-100 บาท แต่ส่วนใหญ่เกษตรกรในพื้นที่อำเภอย่านตาขาว จะส่งไปจำหน่ายที่จังหวัดเพื่อนบ้านอย่างจังหวัดพัทลุง

สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อาจารย์เจษฎา โทรศัพท์ (086) 279-7958

ต้นสละสายพันธุ์อินโดจีน หรือ สละสายน้ำผึ้ง

นายสนั่น สนธิเมือง จากจังหวัดยะลา ได้ให้ข้อมูลว่าในพื้นที่ อ.กรงปินัง มีเกษตรกรกว่า 50 ราย ใน 4 ตำบล ที่หันมาปลูกสละอินโด เพื่อเป็นพืชทางเลือก นอกจากทุเรียน และลองกองแล้ว สละอินโดมีพื้นที่ปลูก 43 ไร่ 54 ครัวเรือน ผลผลิตเฉลี่ย 1,300 กก.ต่อไร่ ส่วนการส่งเสริมการปลูกสละอินโดนั้น

เนื่องจากผลไม้ทั่วไป เช่น ทุเรียน ลองกอง ในปีนี้ผลผลิตไม่ค่อยดี เนื่องจากสภาพภูมิอากาศฤดูกาลที่เปลี่ยนไป ทำให้ผลผลิตที่จะออกสู่ตลาดมีน้อย ส่วนสละอินโด ตลาดมีแนวโน้มต้องการผลผลิตมากยิ่งขึ้น และราคาดี โดยเฉพาะขายส่ง 65 บาทต่อกิโลกรัม และผู้ซื้อจะต้องมีการสั่งจองล่วงหน้า

ทางเกษตรอำเภอ ได้เข้ามาส่งเสริมเกษตรกรในการปลูกสละอินโด เนื่องจาก ปลูกแล้วได้ผลดี ผลผลิตมีรสชาติหวาน กลมกล่อม และรายได้ดี จึงได้มีการจัดตั้งกลุ่มผู้ปลูกสละอินโด โดยจะมีแปลงสาธิต จำนวน 3 แปลง เพื่อให้เกษตรกรที่สนใจหันมาปลูกสละอินโดให้มากขึ้น

องค์การบริหารส่วนตำบลนาทอม อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ประสบความสำเร็จโครงการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง และเตรียมขยายผลไปอีกหลายหมู่บ้าน โดยใช้พื้นที่รอบบ้านของตัวเองปลูกพืชผักสวนครัว เลี้ยงปลาและเลี้ยงไก่ ใช้บริโภคในครอบครัว ที่เหลือส่งขายได้เงินเฉลี่ยครอบครัวละ 200-300 บาทต่อวัน ส่วนพืชผักแต่ละชนิด จะเน้นวิธีปลูกให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ เช่น ปลูกผักในล้อยางรถยนต์ ปลูกถั่วฝักยาว ดอกไม้จีนไว้ริมรั้วและปลูกมะนาวในพื้นที่ชุ่มน้ำ และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งใดสนใจก็สามารถติดต่อขอดูงาน เพื่อนำไปปรับปรุงใช้กับพื้นที่ของตัวเองได้

เศรษฐกิจพอเพียงที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี นายไพทูรย์ ดอนจวง ประสบอุบัติเหตุจนต้องตัดขาข้างขวา แต่ไม่ย่อท้อจับมือกับภรรยาคู่ทุกข์คู่ยาก นำไม้ไผ่ซึ่งหาได้ในท้องถิ่น มาสานเข่งปลาทูขายใบละ 80 สตางค์ หาเลี้ยงชีพ สร้างรายได้ให้ครอบครัววันละประมาณ 80 บาท โดยไม้ไผ่ที่นำมาสานเข่งปลาทูต้องเลือกเฉพาะไผ่บ้าน ที่มีคุณสมบัติพิเศษอ่อนงอ ไม่หักง่ายเหมือนไผ่ชนิดอื่น จากนั้นนำมาตัดเป็นท่อนตามที่ต้องการ ก่อนผ่าเป็นซีก และนำมาเหลาให้เรียบลบความคม นำมาขึ้นรูปสานเป็นเข่งปลาทู ส่งขายให้ลูกค้า

สารไล่แมลงชีวภาพ EM5 และ สุโตจู้

คุณภาพดี มีคุณสมบัติ ป้องกัน ขับไล่ กำจัด แมลงศัตรูพืชทั่วไป เช่น หนอน เพลี้ย เพลี้ยไฟ เพลี้ยแป้ง ไรแดง แมลงหวี่ขาว และ แมลงศัตรูพืชต่างๆ ตัดวงจรการเติบโตของแมลงศัตรูพืช ทำให้ไข่ฝ่อ แมลงเบื่ออาหาร และไม่สืบพันธุ์ แต่ไม่ทำลายตัวห้ำ, ตัวเบียนหรือแมลงที่มีประโยชน์ต่อพืช รักษาโรคพืช เชื้อรา แคงเคอร์ ไฟทอปธอร่า โรครากเน่าโคนเน่า ใช้ได้กับพืชทุกชนิด

แบบ 1 ขวด แบบ 3 ขวด
สารไล่แมลงชีวภาพ สุโตจู้

สละพันธุ์อินโดจีน

เป็นพืชที่ให้ผลลผิตเร็ว พุ่มเล็กให้ผลผลิตเร็ว แค่ก็มีข้อจำกัดมากเช่นเดียวกัน ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากระยะเวลาในการบานของดอกตัวเมียสั้น ถ้าใม่หมั่นสังเกตุ ก็จะไม่ได้ผสม จะเสียโอกาสในการที่จะได้รับผลผลลิต ต้นตัวผู้และดอกเกสรตัวผู้ก็มีความสำคัญ การชวยผสมเกสร การตกแต่งทลาย ตลอดทั้งการป้องกันศัตรูพืชต่าง ๆ

การดูแลต้นสละ

ในขณะที่ให้ผลผลิตแล้วนั้นง่ายมาก เพียงแต่ต้องระวังแมลงวันทองที่จะมากัดกินผลอ่อน ด้วยการฉีดสาร EM และสุโตจู้ เพื่อช่วยไล่แมลงโดยปลอดจากสารเคมี นอกจากนั้น จากการที่สละพันธุ์อินโดนีเซีย ไม่ชอบอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนเกินไป เมื่อนำมาปลูกให้อยู่ร่วมกับยางพารา จึงถือว่าเป็นการแบ่งร่มเงาและเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ต้นไม้ด้วยกัน

ความรู้ด้านการทำเกษตรอินทรีย์ที่น่าสนใจ ล่าสุดในตอนนี้

ปรับปรุงดิน การทำปุ๋ย

ปลูกปอเทืองไว้บำรุงดินในนาข้าว ให้ผลดีมาก

รู้หรือไม่ว่า หากปลูกปอเทือง หลังจากเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จ

อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม

การเลี้ยงสัตว์

8 สายพันธุ์ไก่ไข่ที่นิยมเลี้ยงกันในบ้านเรา

รวม 8 สายพันธุ์ไก่ไข่ที่ให้ผลผลิตสูง และถือเป็นที่นิยมเ

อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม

เทคนิคและวิธีการ

รู้จักพริกคาเยน Cayenne Pepper คืออะไร ดีอย่างไร

Cayenne Pepper ที่ช่วงนี้กำลังฮิต สำหรับนักหาสมุนไพร ที

อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม

เทคนิคและวิธีการ

ผักเมืองนอกในต่างแดน ผักสลัดต่างประเทศ ดีจริงหรือไม่

ชึ้นชื่อว่าผัก หลายคนคงชอบรับประทาน โดยเฉพาะผักสลัด และ

อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม

บทความน่ารู้

การถนอมมะนาว ไว้ใช้ตอนราคาแพง

แม้ว่าช่วงนี้จะผ่านพ้นอากาศหนาวจัดมาได้สองสามวัน แต่ในบ

อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม

บทความน่ารู้ ปรับปรุงดิน การทำปุ๋ย

การใช้ปุ๋ยเคมีร่วมกับการทำเกษตรอินทรีย์

ตามปกติการทำเกษตรอินทรีย์ จะงดเว้นการใช้ปุ๋ยเคมีโดยสิ้น

อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม
pay day nonstop shopee โค้ดส่งฟรี

เทคนิค วิธีการ

เทคนิคการทำเกษตร

พื้นที่น้อย

ทำเกษตรในพื้นที่น้อย

การทำปุ๋ย

การปรับปรุงดิน

ขยายพันธุ์พืช

การขยายพันธุ์พืช

You need to login to contact with the Listing Owner. Click Here to log in.

error: อนุญาตแบบมีที่มา