ปศุสัตว์เร่งช่วยชายแดน ด้านฝนหลวงฯ โปรยเมล็ดพันธุ์พืชเฉลิมพระเกียรติ

สรุปข่าวเด่นวันนี้ 29 กรกฎาคม 2568 กรมปศุสัตว์เร่งช่วยเกษตรกรแนวชายแดน ด้านกรมฝนหลวงฯ เปิดกรมฝนหลวงฯ เปิดโครงการโปรยเมล็ดพันธุ์พืชทางอากาศเฉลิมพระเกียรติ

จากเหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรและสัตว์เลี้ยงจำนวนมาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ นายอรรถกร ศิริลัทยากร สั่งการด่วนให้กรมปศุสัตว์เข้าช่วยเหลือโดยจัดส่งหญ้าแห้ง พืชอาหารสัตว์ และเตรียมเยียวยาเกษตรกรตามระเบียบภัยพิบัติฉุกเฉิน

พื้นที่ได้รับผลกระทบรวม 5 จังหวัด ครอบคลุม 8 อำเภอ 32 ตำบล 40 หมู่บ้าน สัตว์เลี้ยงได้รับผลกระทบเกือบ 1 ล้านตัว ได้แก่ โค กระบือ สุกร แพะ-แกะ และสัตว์ปีก รวมถึงแปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์กว่า 200 ไร่

กรมปศุสัตว์ตั้งศูนย์อพยพสัตว์ หน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ และแจกเสบียงอาหารสัตว์พระราชทานรวม 52,730 กิโลกรัม พร้อมทั้งให้บริการตรวจรักษาสัตว์ รวมถึงแจกชุดสุขภาพสัตว์จำนวน 140 ชุด และอพยพสัตว์กว่า 1,100 ตัว

ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถขอความช่วยเหลือได้ที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอหรือจังหวัด หรือผ่านแอปพลิเคชัน DLD 4.0 ตลอด 24 ชั่วโมง

ในพื้นที่อำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นแหล่งเลี้ยงโค-กระบือขนาดใหญ่ ได้รับผลกระทบโดยตรงจากลูกกระสุนปืนใหญ่ ส่งผลให้มีวัวและไก่ตาย และบ้านเรือนได้รับความเสียหาย โดยกรมปศุสัตว์จัดส่งหญ้าแห้ง 700 ก้อนให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมชดเชยราคาสัตว์ตามอายุและประเภท

ด้านกรมฝนหลวงและการบินเกษตรเปิดโครงการ “ฝนของพ่อ ป่าของแม่ สืบสาน รักษา ต่อยอด เพื่อพสกนิกรของพระราชา” โดยจัดกิจกรรมโปรยเมล็ดพันธุ์พืชทางอากาศเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568

มีการจัดงาน ณ วิทยาลัยเทคนิคพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมทั้งส่งมอบเมล็ดพันธุ์ให้กับศูนย์ฝนหลวงทั่วประเทศ สำหรับดำเนินการโปรยเมล็ดพันธุ์ในพื้นที่อุทยานและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทั้งหมด 7 แห่ง เช่น อุทยานแห่งชาติออบขาน อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และอุทยานแห่งชาติตาพระยา

เมล็ดพันธุ์พืชที่ใช้รวม 10 ชนิด เช่น ประดู่ป่า สัก แดง มะค่าแต้ พะยูง และสมอไทย รวม 1,835 กิโลกรัม โดยจะดำเนินการระหว่างเดือนกรกฎาคม–กันยายน 2568

กิจกรรมนี้ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานรัฐ จิตอาสา และประชาชน โดยมีการปั้นเมล็ดพันธุ์หุ้มดินและจัดส่งให้ศูนย์ฝนหลวงในแต่ละภูมิภาค ถือเป็นการส่งเสริมความร่วมมือในการอนุรักษ์ป่าไม้และเพิ่มความชื้นในอากาศอย่างยั่งยืน

กรมปศุสัตว์ระดมเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เร่งฟื้นฟูสุขภาพสัตว์ในพื้นที่ชายแดน

กรมปศุสัตว์ระดมเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เร่งฟื้นฟูสุขภาพสัตว์ในพื้นที่ชายแดน

รมว. อรรถกร สั่งกรมปศุสัตว์เร่งช่วยเกษตรกรชายแดนไทย–กัมพูชา ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะ ระดมทีมสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ดูแลฟื้นฟูสุขภาพสัตว์รวมเกือบ 1 ล้านตัว จัดส่งเสบียงหญ้าอาหารสัตว์ วางแผนเยียวยาเร่งด่วน

นายอรรถกร ศิริลัทยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งการให้กรมปศุสัตว์เร่งให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์ในพื้นที่แนวชายแดนไทย–กัมพูชา ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะ เพื่อบรรเทาความเสียหายด้านปศุสัตว์อย่างเร่งด่วน ทั้งการช่วยเหลือในระยะเผชิญเหตุและการฟื้นฟูในระยะต่อไป โดยได้จัดส่งหญ้าแห้งและพืชอาหารสัตว์ รวมถึงเตรียมจ่ายค่าเยียวยาตามระเบียบการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน

นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบครอบคลุม 5 จังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ อุบลราชธานี และสระแก้ว รวม 8 อำเภอ 32 ตำบล 40 หมู่บ้าน เกษตรกร 19,716 ราย มีสัตว์เลี้ยงรวม 997,268 ตัว ประกอบด้วย โค 61,172 ตัว กระบือ 17,517 ตัว สุกร 22,613 ตัว แพะ-แกะ 3,128 ตัว และสัตว์ปีก 892,838 ตัว รวมถึงแปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์ 233 ไร่

สำหรับสถานการณ์ล่าสุด ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านปศุสัตว์รายงานว่า มีสัตว์ตายรวมทั้งสิ้น 48 ตัว ประกอบด้วยจังหวัดสุรินทร์ 38 ตัว เป็นโค 14 ตัว กระบือ 1 ตัว แพะ 3 ตัว และสัตว์ปีก 20 ตัว จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นโค 3 ตัว จังหวัดศรีสะเกษ 7 ตัว เป็นโค 6 ตัว กระบือ 1 ตัว โดยเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการฝังกลบซากสัตว์เรียบร้อย

พร้อมกันนี้เน้นย้ำให้สำนักงานปศุสัตว์ในพื้นที่ให้คำแนะนำเกษตรกรเกี่ยวกับการขอรับการเยียวยาตามเกณฑ์ทางราชการ

กรมปศุสัตว์ได้จัดตั้งศูนย์อพยพสัตว์และหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่เพื่อดูแลสุขภาพสัตว์เร่งด่วน โดยมีการแจกเสบียงหญ้าอาหารสัตว์พระราชทานรวม 52,730 กิโลกรัม แบ่งเป็น สุรินทร์ 17,130 กิโลกรัม บุรีรัมย์ 16,600 กิโลกรัม ศรีสะเกษ 10,000 กิโลกรัม อุบลราชธานี 5,000 กิโลกรัม และสระแก้ว 4,000 กิโลกรัม พร้อมสนับสนุนชุดส่งเสริมสุขภาพสัตว์ (แร่ธาตุ ยาปฏิชีวนะ และวิตามิน) จำนวน 140 ชุด อพยพสัตว์แล้ว 1,112 ตัว และให้บริการตรวจสุขภาพ-รักษาสัตว์ 78 ตัว โดยหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่

นายสัตวแพทย์สมชวนกล่าวย้ำว่า กรมปศุสัตว์พร้อมรับมือภัยพิบัติทุกรูปแบบเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร ตลอดจนช่วยเหลือทั้งปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยง โดยจะดำเนินการอย่างเต็มกำลัง เพื่อให้ผู้ได้รับเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์สามารถกลับมาประกอบอาชีพตามปกติให้เร็วที่สุด

ทั้งนี้ เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อสำนักงานปศุสัตว์อำเภอ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด หรือขอความช่วยเหลือผ่านแอปพลิเคชัน DLD 4.0 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

กรมปศุสัตว์ เร่งช่วยเกษตรกรชายแดนไทย-กัมพูชา ได้รับผลกระทบเหตุปะทะ

กรมปศุสัตว์ เร่งช่วยเกษตรกรชายแดนไทย-กัมพูชา ได้รับผลกระทบเหตุปะทะ

กทม. 25 ก.ค.-“อรรถ​กร” สั่ง​ด่วน​ให้​กรมปศ​ุสัตว์​ช่วย​เหลือ​เกษตรกร​ผู้​เลี้ยง​สัตว์​บริเวณ​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ ซึ่ง​ได้​รับ​ผลกระทบ​จาก​เหตุ​ปะทะ​ โดยมีการจัดส่งหญ้าแห้งและพืชอาหารสัตว์เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน​เบื้องต้น​ ล่าสุด​สำรวจ​ความเสียหาย​ มีวัวตาย ​3 ตัว​ จากกระสุนปืน​ใหญ่​ตก​ เตรียม​พร้อม​จ่าย​เยียวยา​ตามระเบียบ​เหตุ​ภัยพิบัติ​ฉุกเฉิน

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งการให้กรมปศุสัตว์เร่งช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะ โดยมีการจัดส่งหญ้าแห้งและพืชอาหารสัตว์เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น พร้อมเตรียมจ่ายค่าเยียวยาตามระเบียบการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน

นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า กรมปศุสัตว์ได้รับข้อสั่งการให้เร่งช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์และดูแลสัตว์เลี้ยงในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน โดยได้ระดมกำลังจากสำนักงานปศุสัตว์ในจังหวัดชายแดนเพื่อส่งหญ้าแห้งและพืชอาหารสัตว์เข้าสนับสนุนในระยะเผชิญเหตุ

ล่าสุด สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดบุรีรัมย์รายงานว่า พื้นที่อำเภอบ้านกรวดซึ่งเป็นแหล่งเลี้ยงโค-กระบือขนาดใหญ่ รวมกว่า 21,452 ตัว (โค 17,313 ตัว และกระบือ 4,139 ตัว) ได้รับผลกระทบจากลูกกระสุนปืนใหญ่ตกหลายจุด ตั้งแต่เวลา 09.30 น. ของวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ได้แก่ บ้านสายโท 10 (ใต้) หมู่ 2 ตำบลสายตะกู 10 ลูก บ้านกรวด หมู่ 3 และหมู่ 5 ตำบลบ้านกรวด 7 ลูก และบ้านสายโท 12 (ใต้) หมู่ 16 ตำบลสายตะกูอีก 3 ลูก

จากการตรวจสอบพบความเสียหายต่อบ้านเรือน 2 หลัง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย และสัตว์เลี้ยงตาย 5 ตัว ประกอบด้วยวัว 3 ตัวและไก่ 2 ตัว ซึ่งเป็นของนางโจทย์ คิดประโคน บ้านเลขที่ 130 หมู่ 5 บ้านกรวด ตำบลบ้านกรวด โดยเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการฝังกลบซากสัตว์เรียบร้อย พร้อมให้คำแนะนำเกษตรกรเกี่ยวกับการขอรับการเยียวยาตามเกณฑ์ทางราชการ

“สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดบุรีรัมย์ได้มอบหญ้าแห้งและพืชอาหารสัตว์รวม 700 ก้อนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น และจะเร่งประเมินความเสียหายเพื่อจ่ายค่าเยียวยาเกษตรกรตามระเบียบ โดยสำหรับโคอายุมากกว่า 2 ปี จะชดเชยตัวละ 35,000 บาท และลูกโคอายุ 6 เดือน-1 ปี ตัวละ 22,000 บาท” นายสมชวนกล่าว

อธิบดีกรมปศุสัตว์ย้ำว่า เหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนถึงความจำเป็นของการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติทุกรูปแบบ ทั้งจากธรรมชาติและเหตุการณ์ไม่คาดคิด พร้อมยืนยันว่ากรมปศุสัตว์จะดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรและดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างเร่งด่วน เพื่อให้สามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติในเร็วที่สุด

ทั้งนี้ เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อสำนักงานปศุสัตว์อำเภอ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด หรือขอความช่วยเหลือผ่านแอปพลิเคชัน DLD 4.0 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

กรมฝนหลวงฯ เปิดโครงการโปรยเมล็ดพันธุ์พืชทางอากาศเฉลิมพระเกียรติ

กรมฝนหลวงฯ เปิดโครงการโปรยเมล็ดพันธุ์พืชทางอากาศเฉลิมพระเกียรติ

กรมฝนหลวงฯ เปิดโครงการโปรยเมล็ดพันธุ์พืชทางอากาศเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “ฝนของพ่อ ป่าของแม่ สืบสาน รักษา ต่อยอด เพื่อพสกนิกรของพระราชา” เมื่อวันที่ 25 ก.ค. เวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ วิทยาลัยเทคนิคพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นายราเชน ศิลปะรายะ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการโปรยเมล็ดพันธุ์พืชทางอากาศ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 ก.ค.2568

โดยมี นางสาวขวัญเรือน ศรีจันทร์ ปลัดจังหวัดเพชรบุรี นายศิรเมศร์ พัชราอริยธรณ์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคพัทยา จิตอาสา ประชาชน นักเรียน นักศึกษา เข้าร่วมแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โอกาสนี้ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร นำผู้เข้าร่วมพิธีประกอบพิธีถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

จากนั้นได้ทำพิธีเปิดโครงการฯ มอบเมล็ดพันธุ์พืชให้แก่ผู้แทนผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง ร่วมปั้นเมล็ดพันธุ์พืช ชมนิทรรศการ และพบปะผู้ร่วมกิจกรรม นายราเชน กล่าวว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พวกเราทุกคนต่างมีความปลาบปลื้มปีติเป็นล้นพ้น ที่ได้มาร่วมกันแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์ศูนย์รวมจิตใจของพสกนิกรชาวไทย ซึ่งโครงการโปรยเมล็ดพันธุ์พืชทางอากาศเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทางกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรฯ จัดขึ้น

เป็นอีก 1 โครงการในการสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในเรื่องการสร้างความสมบูรณ์ให้แก่ทรัพยากรป่าไม้ ซึ่งทุกฝ่ายตระหนักในคุณค่าของป่าต้นน้ำ และน้อมนำแนวพระราชดำริไปเป็นแนวทางในการสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อรักษาระบบนิเวศ ป่าไม้ และสิ่งแวดล้อมโดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

ในการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์และพื้นที่อุทยานสำหรับดำเนินการ และกรมฝนหลวงและการบินเกษตรปฏิบัติภารกิจโปรยเมล็ดพันธุ์หลังเสร็จสิ้นการปฏิบัติการฝนหลวงในแต่ละวัน เพื่อกระจายเมล็ดพันธุ์พืช และเพิ่มความหนาแน่นของพื้นที่ป่าไม้ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและอุทยานแห่งชาติ และเพิ่มความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างโอกาสการปฏิบัติการฝนหลวงให้เป็นผลสำเร็จมากขึ้นด้วยทั้งนี้ ในปี 2568 กรมฝนหลวงและการบินเกษตร กำหนดพื้นที่การโปรยเมล็ดพันธุ์ฯ โดยประสานกับกรมอุทยาน แห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการขออนุญาตใช้พื้นที่ กำหนดชนิดพันธุ์พืชที่เหมาะสมกับผืนป่าและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทั่วประเทศ จำนวน 7 แห่ง ได้แก่

  • อุทยานแห่งชาติออบขาน จ.เชียงใหม่
  • อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จ.พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
  • อุทยานแห่งชาติศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี
  • อุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคำ จ.หนองบัวลำภู
  • อุทยานแห่งไทรทอง จ.ชัยภูมิ
  • อุทยานแห่งชาติตาพระยา จ.สระแก้ว
  • อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

และได้ขอรับการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์พืชจากกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวนเมล็ดพันธุ์พืช 10 ชนิด ได้แก่ ประดู่ป่า สัก แดง มะค่าแต้ มะขามป้อมพะยูง สมอพิเภก สมอไทย มะค่าโมง ชิงชัง จำนวน 1,835 กิโลกรัมนายราเชน กล่าวต่อว่า การจัดกิจกรรมปั้นหุ้มดินเมล็ดพันธุ์พืชฯ ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ จิตอาสา และประชาชนทั่วไป ปั้นหุ้มดินเมล็ดพันธุ์พืชและส่งต่อให้กับศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงในแต่ละภูมิภาคเพื่อนำไปใช้ในการโปรยทางอากาศ

โดยมีระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ถึงเดือน ก.ย.2568 ซึ่งถือได้ว่า โครงการดังกล่าวเป็นการหลอมรวมความสามัคคีของประชาชนทุกภาคส่วน ที่ได้มาร่วมกันเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มพื้นที่ผืนป่าให้กับประเทศไทยให้ทรัพยากรป่าไม้มีความอุดมสมบูรณ์ต่อไป

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

ความรู้ด้านการทำเกษตรอินทรีย์ที่น่าสนใจ ล่าสุดในตอนนี้

น้ำปลาแท้ กับสารฮิสตามีน

น้ำปลาแท้ ดีกว่าอย่างไร? เริ่มต้นเรื่อง ก็ดูเหมือนว่า จะไปเกี่ยวกับอาหารซะแล้ว จริง ๆ ไม่อยากให้ผิดจ

อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม
ไม้ผล 50 ชนิด ที่ควรปลูกไว้ติดสวน

ไม้ผล 50 ชนิด ตามความจำเป็น และประโยชน์ใช้สอยเด่น เป็นพืชทนแล้ง ทนน้ำท่วม รวมถึงปลูกแล้วให้ผลผลิตได้

อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม
การตอนมะละกอ เทคนิค วิธีการ

ว่าด้วยเรื่อง การตอนมะละกอ เพราะสมาชิกหลายคน เข้ามาบ่นถึงเกี่ยวกับเรื่องของ มะละกอ GMO กันมาก

อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม
มอลโทเดกซ์ทริน มันคือแป้ง

ก็แป้งจริง ๆ นั่นแหละ แต่เป็นแป้งที่รับประทานได้ เกิดจากการทำวัตถุดิบประเภทแป้งชนิดต่าง ๆ เช่น ข้าว

อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม
มะละกอฮอลแลนด์ การปลูกแบบพอเพียง

มะละกอฮอลแลนด์ ก่อนที่จะเริ่มต้นการปลูก เกษตรกรต้องทราบที่มาที่ไป ของพืชชนิดนี้ก่อน

อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม
ปลดล็อคกระท่อม 2564 เราทำอะไรได้บ้าง

กระท่อม ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Mitragyna speciosa (Korth.) Havil. เป็นพืชที่อยู่ในวงศ์เข็มและกาแฟ (Rubia

อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม

แนะนำสินค้าจัดโปรโมชั่นพิเศษ

สถิติการรีวิวล่าสุด

คุณก็รีวิวบทความเราได้ แค่แชร์ แนะนำ หรือบอกต่อให้กับเพื่อนคุณ 💚

บทความเกษตรน่าสนใจ

แนะนำบทความเกี่ยวกับการทำเกษตรอินทรีย์ที่น่าสนใจ และน่าติดตาม บทความยอดนิยม

แนะนำบทความยอดนิยม ในหมวดต่าง ๆ เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับสมาชิกที่ต้องการเรียนรู้การทำเกษตรอินทรีย์แบบพอเพียง และยั่งยืน เนื้อหาเข้าใจง่าย ทำได้จริง จากผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตรโดยตรง

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของคุณขณะใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถเลือกที่จะยอมรับได้โดยคลิกที่ปุ่มได้เลย