รู้หรือไม่ว่า ต้นแก้วมังกร ไม่ได้ต้องการดินมากก็โตได้ ปลูกในกระถางก็ให้ผลผลิตดี ไม่แพ้ลงแปลงในสวน อีกทั้งปลูกริ่มรั้วบ้านก็ทำได้ง่ายมากด้วย
เพราะนักปลูกผักผลไม้ บางพื้นที่มีบ้านในสภาพชุมชนคนเมือง และเนื้อที่น้อย คิดไม่ออกว่าจะปลูกอะไรดี นอกจากผักสวนครัวหลาย ๆ อย่าง บางบ้านมีมะม่วงซักต้นก็หรูแล้ว ผมเคยเห็นบางบ้านมีมะพร้าวต้นเตี้ยปลูกในที่แคบ ๆ ริมรั้วด้วย ขนาดมะพร้าวยังโตได้ แก้วมังกรริมรั้ว หรือในกระถาง ไม่น่าจะยาก ลองหาข้อมูลก็เจอเลย
ลองนึกเล่น ๆ ว่าหากรั้วบ้านคุณเต็มไปด้วย ต้นแก้วมังกร ที่กำลังออกลูกออกผล คงจะดีไม่น้อย ที่สำคัญ แก้วมังกรริมรั้วนั้น ดันปลูกในกระถางอีก เท่จะตาย ปลูกแก้วมังกรริมรั้วไม่ยาก
หัวข้อ วิธีปลูกแก้วมังกรในกระถาง ริมรั้ว
ภาพลักษณะนี้ เขาไม่ได้ปลูก แต่เขาตัดกิ่งที่ติดลูกมาปักลงกระถาง
สภาพอากาศที่ ต้นแก้วมังกร เติบโตได้ดี
โดยปกติสภาพดิน และภูมิอากาศที่เหมาะสม แก่การปลูกต้นแก้วมังกรนั้น มักขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และความดกของผลผลิต แต่แก้วมังกร เป็นพืชตระกูลตะบองเพชร ชอบแสง ภูมิอากาศร้อน ต้องการน้ำ แต่ต้องระบายน้ำได้ดี
แก้วมังกรปลูกได้ในทุกสภาพดิน ไม่ว่าจะเป็น ดินปนทราย ดินเหนียว ดินลูกรัง สำหรับดินเหนียวและดินลูกรัง จำเป็นจะต้องมีการปรับหน้าดินด้วยการใส่ปุ๋ยคอกและแกลบดำ ก็ปลูกได้เลย
ต้นแก้วมังกร เป็นต้นไม้ที่ชอบอาศัยอยู่ในดินโปร่ง ๆ ที่มีความร่วนซุย สภาพดินไม่แน่นจนเกินไป เป็นพืชที่ใช้น้ำน้อย หากดินแน่น เขาจะสามารถสร้างรากอากาศเพื่อรับแร่ธาตุได้ แต่หากบริเวณนั้นมีความชื้นสูง เขาจะถอดเปลือกหุ้มลำต้นออก และแทงแต่แรกลงดิน
ด้วยความที่แก้วมังกร เป็นพืชตระกูลตะบองเพชร จึงเป็นพืชที่ชอบอากาศร้อนและแดดจัด การปลูกจึงควรเตรียมพื้นที่ให้อยู่ที่โล่งแจ้ง ไม่มีร่มเงาของต้นไม้อื่นมาบัง แก้วมังกรจะสามารถเจริญเติบโตได้ดี และออกดอกออกผลได้อย่างน่าพอใจ
สายพันธุ์แก้วมังกรที่คนนิยมปลูก มีอะไรบ้าง
ที่เห็นในท้องตลาด แก้วมังกรแต่ละพันธุ์ จะมีอยู่ 3 แบบ คือ (ดูเพิ่มเติมที่ การปลูกแก้วมังกร)
- พันธุ์เนื้อขาวเปลือกแดง รสชาติหวานอมเปรี้ยว
- พันธุ์เนื้อขาวเปลือกเหลือง ให้รสชาติหวานจืด ๆ
- พันธุ์เนื้อแดงเปลือกแดง ให้รสชาติหวานกว่าพันธุ์อื่น
การดูแลรักษาแก้วมังกรให้ได้ผลผลิต ภายในระยะเวลาอันสั้น อย่างแรกคือต้องมีการวางแผนการปลูกก่อน และควรเริ่มปลูกประมาณเดือนตุลาคม (จะทำให้ได้ผลผลิตในเดือนมีนาคมปีถัดไปพอดี)
สำหรับการปลูกแก้วมังกรไม่ยากอย่างที่คิด แค่ให้มีดิน จะในกระถางหรือริมรั้ว อะไรก็ได้ จะเป็นดินทรายยิ่งดี แต่ในเมืองส่วนใหญ่ก็ดินร่วน ดินเหนียวที่ถม หาหน้าดินมาผสมเสียหน่อย ก็ไม่เสียหาย และอย่าลืมในระยะแรกของการปลูก ก็นำปุ๋ยคอกผสมเข้ากับดินปลูกด้วยยิ่งดี
วิธีปลูกแก้วมังกรในกระถาง
หากมีพื้นที่ ที่ได้รับแสงแดดทั้งวันอย่างเพียงพอ ยิ่งบริเวณริมรั้ว ยิ่งดีใหญ่ เพราะจะได้ไม่ต้องทำหลัก ปล่อยให้ต้นแก้วมังกร ไต่ขึ้นตามขอบรั้วได้เลย เมื่อต้นแก้วมังกรโต ก็จะกลายเป็นด่านปราการกั้นขโมยไปในตัว ทั้งหนามที่คม และกิ่งก้านที่ทอดยาว ทำให้การปีนป่ายลำบากแน่นอน
การปลูกก็ไม่ยาก หากไม่ใช้บริเวณริมรั้ว ก็ต้องหาเสามาปักเพื่อให้ต้นเกาะ ตัดกิ่งพันธุ์ที่ต้องการ แล้วหันด้านแบนเข้าหาหลัก ฝังท่อนพันลงดินประมาณ 2 -3 นิ้ว แล้วทำการมัด ไม่ต้องแน่นมาก แต่พออยู่ หลังจากนั้น รดน้ำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
ความเข้าใจที่ว่า ต้นแก้วมังกรไม่ชอบน้ำ นั้นเป็นความคิดที่ผิด
เพราะเท่าที่สังเกตุดู ต้นแก้วมังกรชอบน้ำ รดน้ำบ่อยอาทิตย์ละ 2-3 ครั้งยิ่งโตเร็ว แต่ดินต้องระบายน้ำดี ไม่ท่วมขัง เพราะจะทำให้โคนเน่าได้ง่าย ๆ
การพันหลักต้นแก้วมังกร ปกติลำต้นจะเป็นสามเหลี่ยม แต่จะมีอยู่ด้านหนึ่ง ที่เป็นด้านแบน เวลาผูกต้นแก้วมังกรกับหลัก หรือเสา
ให้จับด้านแบนของต้นหันเข้าหลักหรือเสา เพราะว่าด้านแบนเป็นด้านที่จะออกราก
แก้วมังกรต้องการน้ำน้อย จริงหรือไม่
ที่บอกว่าใช้น้ำน้อย คือการฉีดพ่นน้ำแค่ละอองเล็กน้อยตอนเช้า และเย็นเท่านั้น หากสภาพดินระบายน้ำไม่ดีต้นจะเน่า หากน้ำไม่เพียงพอต้นจะเหลียงและแห้งตาย เมื่อมีการแทงยอดควรมัดแนบกับหลักกันยอดหัก ถ้าการเจริญเติบโตปกติสม่ำเสมอ อย่างน้อย 1 กิ่งต้องทำการมัดทุกๆ 15 วัน จนกว่ากิ่งจะพ้นหลัก แล้วให้ไปกระจายอยู่ด้านบน
เมื่อผ่านพ้นปีแรก ควรให้ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก สม่ำเสมอ เนื่องจากการปลูกในกระถาง แม้จะไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำ แต่เรื่องดินและธาตุอาหารในกระถาง ต้องเติมอย่างเพียงพอ เพื่อให้ผลผลิตที่ดีและต่อเนื่อง
วิธีปลูกแก้วมังกรลงดิน เพื่อการค้า
ปลูกแก้วมังกรสำหรับการค้า เมื่อปลูกไปได้ 8 เดือน – 1 ปี ก็จะเริ่มให้ผลผลิตประมาณ 30 ผลต่อหนึ่งค้าง ปีที่ 2 ประมาณ 50 ผลต่อหนึ่งค้าง ปีที่ 3 ประมาณ 100 ถึง 200 ผลต่อหนึ่งค้าง ปีที่ 4- 15 ประมาณ 300 ผลต่อหนึ่งค้างขึ้นไป ขนาดของผลโดยเฉลี่ย 3-4 ผลต่อหนึ่งกิโลกรัม
หากต้องการให้ผลผลิตออกทั้งปีก็สามารถทำได้โดยใช้หลอดไฟขนาด 200 วัตต์หนึ่งดวงต่อเสาสี่เสา เปิดไฟตั้งแต่เวลา 19.00 ถึง 5.00 น. ติดต่อกันทุกคืนเป็นเวลา 15 คืน ตาดอกก็จะเริ่มสร้างขึ้นมา คลำดูที่ตาใต้หนามจะรู้สึกได้หลังจากนั้นอีกประมาณ 5 วัน ดอกก็จะพัฒนาเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนอายุ ได้ 15 วัน ก็จะบานและผสมติดอีก 30 วัน ก็จะเริ่มสุกและเก็บผลได้
การตัดแต่งกิ่งแก้วมังกร เพื่อให้ได้ผลผลิตสูง
การตัดแต่งกิ่ง ไม่ทำให้ลดปริมาณของผลผลิตลงมากนัก หนำซ้ำยังสามารถเพิ่มผลผลิตให้มีคุณภาพได้อีกด้วย แต่จุดประสงค์ของการตัดแต่งกิ่งคือ เพื่อความสะดวกในการเก็บเกี่ยว
ปลูกในกระถางแต่ไม่ค่อยได้ตัดแต่งกิ่ง ลำต้นก็ไม่อวบ ไม่ค่อยให้ผลผลิต
ตัดแต่งกิ่งบ่อย ๆ ลำต้นสมบูรณ์ ให้ผลผลิตที่ใหญ่กว่า
ในบางครั้ง กิ่งที่พันกัน อาจมีตาดอกที่ควรจะเกิดผล แต่ต้องไปเบียดกับอีกกิ่งหนึ่งจนแน่นเกินไป ทำให้ตาดอกฝ่อ หรือการที่มีกิ่งเบียดเสียดกันแน่นเกินจะทำให้กิ่งช้ำ เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน อาจทำให้บริเวณนั้นมีการเน่า กระทั่งไม่เกิดผลผลิต จำเป็นต้องตัดกิ่งทิ้งอยู่ดี
การตัดแต่งกิ่งมีข้อดีอีกอย่างคือ เพิ่มช่องว่างให้อากาศถ่ายเทได้โดยสะดวก ทำให้กิ่งไม่เกิดเชื้อรา และสัตว์หลากหลายชนิดเข้าไปทำรัง จนอาจเกิดอันตรายกับเกษตรกร อีกทั้ง การตัดแต่งกิ่งไม่ให้ห้อย ย้อย หรือเกะกะเกินไป ก็จะทำให้ได้ต้นที่สวยงาม ดูดี น่ามองอีกด้วย
ความรู้ด้านการทำเกษตรอินทรีย์ที่น่าสนใจ ล่าสุดในตอนนี้
ปรับปรุงดิน การทำปุ๋ย
สภาพดินปนทราย ปลูกพืชอะไรถึงจะดี
ดินปนทราย ปลูกอะไรดี พื้นที่การเกษตรในประเทศไทย แตกต่าง
อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมบทความน่ารู้
เกษตรทางเลือก ระบบการทำ
จากสภาพปัญหา การเกษตร ที่เกิดขึ้น ทำให้แนวคิด ที่มุ่งแส
อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมปรับปรุงดิน การทำปุ๋ย
มะละกอฮอลแลนด์ การปลูกแบบพอเพียง
มะละกอฮอลแลนด์ ก่อนที่จะเริ่มต้นการปลูก เกษตรกรต้องทราบ
อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมเกษตรในพื้นที่น้อย
ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ในขวดพลาสติก
เทคนิคการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ผักไร้ดิน ที่ใครหลายคน เข้
อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมการขยายพันธุ์พืช
การติดตาพืช เพื่อเพิ่มผลผลิต ทำอย่างไร
เอาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ที่หลายคนรอบรู้อยู่แล้วเกี่ยวกับ
อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมเทคนิคและวิธีการ
ทุกเรื่องของ มะพร้าวทะเล พืชที่ปลูกได้ในไทย
มะพร้าวทะเล ข้อมูลบางส่วนจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ระ
อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม
เทคนิค วิธีการ
พื้นที่น้อย
การทำปุ๋ย
ขยายพันธุ์พืช