ทำเกษตรอินทรีย์ที่ได้ประโยชน์สูงสุด ควรทำแบบมีทิศทางที่แน่นอน และชัดเจน เช่นการปลูกข้าวโพดฝักอ่อน
จากบทสัมภาษณ์ของ ดร.ศุภชัย หล่อโลหการ ที่ปรึกษาสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ได้แนะนำแนวทาง เกี่ยวกับการสร้างรายได้ที่ยั่งยืน บวกกับ การทำเกษตรอินทรีย์ในรูปแบบใหม่ว่า ไม่สามารถทำแบบไม่รู้ทิศทางได้ เพราะจะเสียเวลานาน และไม่เกิดประโยชน์สูงสุด
หากทำแบบมีระบบ มีแบบแผน มีการจัดการที่ดี จะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก สิ่งสำคัญ จะต้องเลือกพืช ให้ถูกมูลค่า และกับความต้องการของตลาด ว่าพืชประเภทนั้น เป็นพืชที่สามารถทำให้มีมูลค่าเพิ่มง่ายเพียงใด เมื่อนำมาปลูกแบบอินทรีย์ แล้วได้ประโยชน์มากกว่าเดิม เช่น หน่อไม้ฝรั่ง ข้าวโพดฝักอ่อน เพราะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้สูง ตลาดต้องการต่อเนื่อง คำนวณคร่าว ๆ แล้ว หากปลูกแค่ 2 ไร่ ก็สามารถทำเป็นอาชีพหลักได้
ทำเกษตรอินทรีย์ ไม่สามารถปลูกพืชจำนวนมากได้ จึงต้องเลือกพืชที่เหมาะสม แม้มีพื้นที่น้อย แต่สร้างมูลค่าได้สูง
และหนึ่งในพืชที่ ดร.ศุภชัย ได้พูดถึงก็คือ “ข้าวโพดฝักอ่อน” เพราะทุกวันนี้ ตลาดยังคงต้องการ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จนบางครั้งความต้องการมาก ก็อาจทำให้ขาดตลาดได้
ข้าวโพดฝักอ่อน พืชทนแล้งที่สร้างรายได้รวดเร็ว
ข้าวโพดฝักอ่อน เป็นพืชไร่ที่ใช้บริโภคเป็นอาหาร และมักจะขาดตลาดในช่วงฤดูฝน เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกอาจมีน้ำท่วมขัง ทำให้ต้นข้าวโพดเจริญเติบโตได้ไม่ดีเท่าที่ควร ให้ผลผลิตน้อย จากปากคำของเกษตรกรชาวไร่ ผู้ปลูกข้าวโพดฝักอ่อนสร้างรายได้ ได้เล่าให้ฟังว่า
เขาใช้เวลาว่าง หลังจากงานนา ได้มาลองปลูกข้าวโพดฝักอ่อนเพราะเห็นว่าราคาดี เมื่อเปรียบเทียบกับระยะเวลาที่ปลูก กับพืชชนิดอื่น ๆ
รวมถึงการเปรียบเทียบราคาผลผลิต ระหว่าง ข้าว กับข้าวโพด แล้วพบว่า ข้าวโพดฝักอ่อน นั้น สามารถสร้างรายได้ดีกว่าการทำนาข้าว แถมระยะเวลาก็เร็วกว่า ใช้เวลาดูแลน้อยกว่า
วิธีปลูกข้าวโพดฝักอ่อน
สำหรับวิธีการปลูกข้าวโพดฝักอ่อนนั้น มีวงจรง่าย ๆ เพราะเป็นพืชที่ปลูกและดูแลง่าย ใช้ระยะเวลาตั้งแต่เริ่มหยอดเมล็ดพันธุ์ จนเก็บฝัก เพียงแค่ 50 วันเท่านั้น
เริ่มต้นจากไถพื้นที่ปลูกเหมือนการปลูกพืชทั่วไป จัดแต่งให้เป็นร่อง ช่วงห่างราว 80 เซนติเมตร จัดเก็บวัชพืชออกให้หมด ตากดินให้แห้ง แล้วสูบน้ำเลี้ยงแปลงให้ชุ่ม รองพื้นด้วยปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยอินทรีย์ จากนั้นลงเมล็ดหลุมละ 2-3 เมล็ด จนข้าวโพดขึ้นแตกยอด ราว 10 วัน ลำต้นจะเริ่มโต ช่วงนี้ต้องคอยกำจัดวัชพืช ผ่านพ้นระยะช่วงกลางราว 30 วันไปแล้ว ให้ใส่ปุ๋ยอินทรีย์เพิ่มเล็กน้อย เป็นการเสริมอาหารจนครบ 45 วัน ข้าวโพด เป็นพืชที่ต้องการน้ำน้อย ไม่ต้องดูแลมากก็โตเร็ว
จากนั้น เมื่อข้าวโพดออกฝัก ให้ชักยอด เพื่อป้องกันไม่ให้เกสรตัวผู้ผสมกับเกสรตัวเมีย เพราะถ้าเกษรผสมกันแล้ว ข้าวโพดจะเป็นเมล็ดฝักแก่ เหมือนข้าวโพดทั่วไปที่มีตามท้องตลาด หรือข้าวโพดอาหารสัตว์ เมื่อชักยอดเสร็จแล้ว ปล่อยไว้อีก 5 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว รวมเวลาทั้งหมดประมาณ 50 วันพอดี
ปลูกข้าวโพดฝักอ่อน 2 เดือนก็รวยได้ เพราะเป็นพืชไร่ที่มีอนาคต ใช้เวลาเพาะปลูกเพียง 50 วัน ดูแลรักษาง่าย ราคาแกว่งตัวไม่มาก เกษตรกรมีกำไร จะปลูกเป็นรายได้เสริมหลังการเก็บเกี่ยวข้าวก็ได้ หรือจะทำเป็นรายได้หลักก็ได้
สายพันธุ์ข้าวโพดฝักอ่อนที่นิยมปลูก
พันธุ์ข้าวโพดฝักอ่อน ที่เกษตรกรนิยมปลูก ได้แก่
- พันธุ์ผสมเปิดต่าง ๆ ได้แก่ สุวรรณ 1, สุวรรณ 2, สุวรรณ 3, รังสิต 1 และเชียงใหม่ 90 โดยพันธุ์สุวรรณ 1, 2 และ 3 เป็นข้าวโพดไร่ที่มีข้อดี คือมีความต้านทานโรคราน้ำค้าง และโรคอื่น ๆ ได้ดี สามารถเจริญเติบโต และปรับตัวได้ดี เมล็ดพันธุ์ราคาถูก
- พันธุ์ลูกผสมของทางราชการ และบริษัทเอกชน ได้แก่ พันธุ์ SG 17 ซุปเปอร์, พันธุ์แปซิฟิค 116, พันธุ์แปซิฟิค 283, พันธุ์จี 5414, พันธุ์ เอสจี 18, พันธุ์ยูนิซิดส์ บี 65 และพันธุ์เกษตรศาสตร์ 2 ซึ่งพันธุ์เหล่านี้มีข้อดี คือมีความสม่ำเสมอของลักษณะต้น อายุเก็บเกี่ยว และจำนวนฝักอ่อน ซึ่งได้มาตรฐานสูงกว่าพันธุ์ผสมเปิด
พันธุ์ข้าวโพดฝักอ่อนที่แนะนำได้แก่ SG 17 ซุปเปอร์ ซึ่งเป็นพันธุ์ที่พัฒนาเพื่อข้าวโพดฝักอ่อนโดยเฉพาะ สามารถให้จำนวนฝักเกรดเอ เฉลี่ยสูงถึง 71 เปอร์เซ็นต์ และให้คุณภาพฝักสูง มีความทนทาน ไม่หัก หรือดำช้ำง่าย สีฝักสวย เหมาะกับตลาดแพ็คสด และโรงงานแปรรูป
ลักษณะประจำพันธุ์ SG 17 ซุปเปอร์ คือความสูงต้นเฉลี่ย 155 เซนติเมตร ความสูงฝักแรกที่ 95 เซนติเมตร อายุเก็บเกี่ยวครั้งแรกเฉลี่ย 55 วัน เก็บเกี่ยวนาน 5-6 วัน ความยาวไหมที่เหมาะสมต่อการเก็บเกี่ยวที่ 5-10 เซนติเมตร มีลักษณะฝักสีเหลือง ทรงกรวยปลายแหลม เมล็ดคล้ายไข่ปลาละเอียด มีน้ำหนักฝักสดรวมเปลือก ประมาณ 2,100-2,400 กิโลกรัม/ไร่ ผลผลิตฝักสดเมื่อปอกเปลือก 300-430 กิโลกรัม/ไร่
เทคนิคการให้น้ำในแปลง
การให้น้ำในการปลูกข้าวโพดฝักอ่อนนั้น ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเอาใจใส่ใกล้ชิด เพราะข้าวโพดฝักอ่อนจะเติบโตได้ดี มีฝักสมบูรณ์ เมื่อมีความชื้นตลอดทั้งช่วงการปลูก แต่ควรระมัดระวังอย่าให้ดินแฉะ และหากขาดน้ำ หรือดินแห้งในช่วงใดช่วงหนึ่งจะทำให้การเจริญเติบโตหยุดชะงัก
การให้น้ำต้นข้าวโพดฝักอ่อนนั้น ให้พิจารณาความชื้นดินที่ระดับความลึก 0-20 เซนติเมตร ตลอดฤดูปลูก ช่วงที่ข้าวโพดยังเล็กในระยะแรก ให้น้ำทุก 2-3 วัน เมื่อต้นสูงประมาณ 50-60 เซนติเมตร หรือสูงประมาณหัวเข่า จะให้น้ำทุก ๆ 5-7 วัน ต่อจากนั้น การให้น้ำจะพิจารณาเมื่อดินเริ่มแห้ง ต้องคอยเฝ้าดูเป็นระยะ ๆ
วิธีการเก็บเกี่ยวผลผลิต
สำหรับข้าวโพดฝักอ่อน ถือเป็นพืชอายุสั้น ประมาณ 55-60 วัน และจะเก็บเกี่ยวหลังดึงช่อดอกตัวผู้แล้วประมาณ 3-5 วัน แต่มีข้อควรระวังคือ ฝักอ่อนจะโตเร็ว ซึ่งควรเก็บเกี่ยวฝักอ่อนในระยะที่เหมาะสม หากปล่อยนาน จะทำให้ฝักอ่อนมีขนาดโตเกินมาตรฐานที่โรงงานหรือตลาดต้องการ
การเก็บเกี่ยวมีข้อพึงปฏิบัติดังนี้
- สังเกตไหมที่เริ่มโผล่ปลายฝัก เมื่อมีความยาวประมาณ 1-2 เซนติเมตร จะเป็นช่วงที่เหมาะสมในการเก็บเกี่ยวที่สุด
- ให้เก็บจากฝักบนสุดเป็นฝักแรก และฝักที่ถัดต่ำลงมาตามลำดับ และควรหักลำต้นไปด้วย เพื่อจะทำให้มองเห็นต้นที่เก็บเกี่ยวแล้ว
- ให้เก็บฝักทุกวัน เพื่อป้องกันไม่ให้ฝักแก่เกินไป
- หากใช้พันธุ์ใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยปลูก ควรสุ่มเก็บตัวอย่างข้าวโพดที่มีไหมยาวแตกต่างกัน และกรีดดูลักษณะฝัก ขนาดของฝัก พร้อมเก็บข้อมูล และพิจารณาระยะที่เหมาะสมสำหรับนำไปใช้กำหนดระยะการเก็บของทั้งแปลง
- การเก็บฝักสดเพื่อส่งออก ควรเก็บ 2 ฝัก/ต้น โดยไม่ควรเก็บฝักที่ 3 เนื่องจากฝักนั้นมักไม่สมบูรณ์ ไม่ได้คุณภาพ
ความรู้ด้านการทำเกษตรอินทรีย์ที่น่าสนใจ ล่าสุดในตอนนี้
ข้าวนึ่งไทย ใครซื้อใครขาย
ข้าวนึ่ง หรือ Parboiled Rice เป็นข้าวที่ผ่านการแปรรูป ให้เมล็ดข้าวมีความแข็งมากกว่าปกติ เก็บรักษาได้
อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมระบบน้ำหยดทำเองแบบง่ายและประหยัด
ระบบน้ำหยดทำเอง ไปเจอภูมิปัญญาชาวบ้านมา อยากแนะนำมาก แต่ยังไม่ได้ทดลองกับตัวเองว่าจะมีประสิทธิภาพเท่
อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมบัวบกโขด ทุกเรื่องน่ารู้อยู่ที่นี่
บัวบกโขด ไม้โขดที่ทำรายได้เติบโตอย่างสูง โดยไม่ง้อว่าสภาพเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร แม้ทุกพื้นที่ในโลกนี้
อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมสร้างรายได้ด้วยการปลูกสละ
จากข้อมูลที่แนะนำเข้ามา ว่าการปลูกสละ สามารถสร้างรายได้ ได้ตลอดทั้งปีนั้น สอบถามไปยังคุณลุงสว่าง รัก
อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมแผงโซล่าเซลล์ กับการทำเกษตร
แผงโซล่าเซลล์ เป็นพลังงานสะอาด และเป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อม และเหมาะอย่างยิ่งที่จะนำมาใช้กับการ ทำเกษต
อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมเปลือกลำไย ใช้ไล่ยุงและแมลงรบกวนได้ดี
รู้หรือไม่ เปลือกลำไยไล่แมลง และใช้ไล่ยุง ได้ ในสมัยก่อน เรารู้กันว่า เปลือกส้ม ดอกไม้บางชนิด สามารถ
อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมแนะนำสินค้าจัดโปรโมชั่นพิเศษ
สถิติการรีวิวล่าสุด
คุณก็รีวิวบทความเราได้ แค่แชร์ แนะนำ หรือบอกต่อให้กับเพื่อนคุณ 💚

บทความเกษตรน่าสนใจ
แนะนำบทความเกี่ยวกับการทำเกษตรอินทรีย์ที่น่าสนใจ และน่าติดตาม บทความยอดนิยม
แนะนำบทความยอดนิยม ในหมวดต่าง ๆ เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับสมาชิกที่ต้องการเรียนรู้การทำเกษตรอินทรีย์แบบพอเพียง และยั่งยืน เนื้อหาเข้าใจง่าย ทำได้จริง จากผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตรโดยตรง
ผักเหลืออย่าทิ้ง ใช้ปลูกเป็นต้นใหม่ได้ไม่ยาก
ปราชญ์แห่งวังน้ำเขียวคือใคร
มะม่วงหาวมะนาวโห่ ดีอย่างไร ทำไมถึงควรปลูกไว้ติดบ้าน