เตือนประชาชนเฝ้าระวังดินถล่มจากพายุวิภา

ข่าวสำคัญเกี่ยวกับเฝ้าระวังดินถล่มจากพายุวิภา จากสำนักข่าวประจำวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 เวลา 02:30 น.

ข่าวจากสำนักข่าวไทย เตือนเฝ้าระวังดินถล่มใน 21 จังหวัด แม้ “วิภา” อ่อนกำลัง ที่มีการนำเสนอไปเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 เวลา 02:30 น. นั้น รายละเอียดมีดังนี้คือ

เตือนเฝ้าระวังดินถล่มใน 21 จังหวัด แม้ “วิภา” อ่อนกำลัง

กรุงเทพฯ 23 ก.ค. 2568 กรมทรัพยากรธรณี แจ้งเตือนให้เฝ้าระวังดินถล่มในพื้นที่ 21 จังหวัด จากผลกระทบพายุ “วิภา” แม้ขณะนี้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้ว แต่อิทธิพลของร่องมรสุมยังคงส่งผลให้หลายพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันตกมีฝนตกหนักต่อเนื่อง

นายพิชิต สมบัติมาก อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เปิดเผยว่า กรมฯ ยังคงเปิดศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย (War Room) เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 หรือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยมีเป้าหมายเพื่อประเมินความเสี่ยง วิเคราะห์ข้อมูล และแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

จากการวิเคราะห์ข้อมูลฝนสะสมควบคู่กับแบบจำลองธรณีพิบัติภัย พบว่า มีพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มกระจายอยู่ใน 21 จังหวัด ได้แก่

-ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ลำปาง ตาก อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย อุดรธานี หนองคาย-ภาคตะวันออก: จันทบุรี ตราด-ภาคตะวันตก: กาญจนบุรี ราชบุรี-ภาคใต้ฝั่งตะวันตก: ระนอง พังงา ภูเก็ต

ในจำนวนนี้ มี 6 จังหวัดที่จัดอยู่ในกลุ่มเฝ้าระวังพิเศษ ได้แก่ น่าน พะเยา เชียงราย เชียงใหม่ ตาก และกาญจนบุรี ซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงชัน และมีฝนตกต่อเนื่องหลายวัน ทำให้ดินมีความชื้นสะสมสูงและเสี่ยงต่อการพังทลายของดินและหิน

ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ปริมาณฝนสะสมในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ในหลายพื้นที่ของจังหวัดน่านและพะเยาสูงเกือบ 300 มิลลิเมตร

10 อันดับพื้นที่ที่มีปริมาณฝนสะสมสูงสุด

1.หน่วยจัดการต้นน้ำกอนฝั่งซ้าย ต.พญาแก้ว อ.เชียงกลาง จ.น่าน – 285.4 มม.

2.บ้านผาเงียง ต.ภูคา อ.บ่อเกลือ จ.น่าน – 285.2 มม.

3.บ้านขุนน้ำพริก ต.นาไร่หลวง อ.สองแคว จ.น่าน – 282.0 มม.

4.บ้านผาน้ำย้อย ต.พญาแก้ว อ.เชียงกลาง จ.น่าน – 279.5 มม.

5.ศาลาชุมชน ม.2 บ้านร้องตอง ต.ม่วงตึ๊ด อ.ภูเพียง จ.น่าน – 275.8 มม.

6.บ้านสกาดกลาง ต.สกาด อ.ปัว จ.น่าน – 273.5 มม.

7.บ้านน้ำลาว ต.แม่ลาว อ.เชียงคำ จ.พะเยา – 272.5 มม.

8.บ้านปางมะโอ ต.ผาช้างน้อย อ.ปง จ.พะเยา – 272.0 มม.

9.บ้านสินสองพัฒนา ต.ผาช้างน้อย อ.ปง จ.พะเยา – 271.5 มม.

10.หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ สก.2 (ภูสิงห์) ต.ผาช้างน้อย อ.ปง จ.พะเยา – 259.4 มม.

กรมทรัพยากรธรณีได้ส่งข้อมูลพื้นที่เสี่ยงไปยังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยมีการประกาศแจ้งเตือนประชาชนผ่านระบบ Cell Broadcast พร้อมประกาศเฝ้าระวังดินถล่มในพื้นที่ตามประกาศฉบับล่าสุด

อธิบดีกล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้ประชาชนในพื้นที่ลาดเชิงเขาและบริเวณใกล้แหล่งน้ำ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมสังเกตสัญญาณความเสี่ยง เช่น ฝนตกหนักต่อเนื่อง น้ำในลำธารเปลี่ยนสี เสียงผิดปกติจากภูเขา หรือระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และให้เตรียมความพร้อมอพยพทันทีเมื่อได้รับแจ้งเตือน

ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลสถานการณ์ธรณีพิบัติภัยได้ที่ ศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี โทร. 02 621 9702–5 หรือเว็บไซต์ www.tmd.go.th.-512.-สำนักข่าวไทย

ข่าวจาก Thairath เรื่อง กรมทางหลวง พร้อมรับมือ “พายุวิภา” ในจังหวัดเสี่ยงภัย เฝ้าระวังพื้นที่ลุ่มต่ำ ที่มีการนำเสนอไปเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 เวลา 17:10 น. นั้น รายละเอียดมีดังนี้คือ

กรมทางหลวง พร้อมรับมือ

กรมทางหลวง พร้อมรับมือพายุวิภา ในจังหวัดเสี่ยงภัย สั่งแขวงทางหลวงทั่วประเทศไทยเตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกประชาชน เฝ้าระวังจุดเสี่ยงน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำและทางหลวงสายสำคัญ นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 14 เรื่อง พายุวิภา

ซึ่งคาดว่าฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย นั้น จึงได้กำชับให้ทุกแขวงทางหลวงในพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากพายุ “วิภา” เร่งเตรียมความพร้อมทั้งด้านบุคลากร เครื่องจักรกล และอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่เสี่ยง ทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง

ประสานการทำงานกับหน่วยงานท้องถิ่นและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในการเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมแจ้งเตือนประชาชนและผู้ใช้ทางอย่างต่อเนื่องทั้งนี้ กรมทางหลวงได้จัดเตรียมป้ายเตือนอันตราย ป้ายแนะนำเส้นทางเลี่ยง-ทางลัด และเจ้าหน้าที่ประจำจุดเสี่ยงตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะทางหลวงสายหลักและเส้นทางภูเขาที่มีความเสี่ยงดินโคลนถล่ม  เช่น จังหวัดน่าน จังหวัดพะเยา จังหวัดเชียงราย จังหวัดแพร่ และจังหวัดลำปาง เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังได้มีการเฝ้าระวังจุดเสี่ยงน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำและทางหลวงสายสำคัญ หากพบคอสะพานชำรุดได้จัดเตรียมเครื่องจักร อาทิ รถแบคโฮ รถบรรทุก และเครื่องสูบน้ำ เพื่อแก้ไขสถานการณ์ได้ทันท่วงที

สำหรับสถานการณ์อุทกภัยและดินสไลด์ประจำวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 พบว่า ทางหลวงถูกน้ำท่วมและดินสไลด์ จำนวน 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดน่าน จังหวัดพะเยา (20 สายทาง จำนวน 29 แห่ง) การจราจรผ่านไม่ได้ 7 แห่ง ดังนี้

1. ทล.1093 ขุนห้วยไคร้ – ผาตั้ง ช่วงกม.ที่ 48+100 – 48+150 ดินสไลด์ปิดทับผิวทาง

2. ทล.1326 ร่องบัวทอง – สบเปา ช่วงกม.ที่ 12+875 – 13+300 ระดับน้ำ 10 – 15 ซม.

3. ทล.101 สี่แยกช้างเผือก – ปัว ช่วงกม.ที่ 410+670 – 411+100 ระดับน้ำ 70 ซม.

4. ทล.1081 บ่อเกลือ – เฉลิมพระเกียรติ ช่วงกม.ที่ 102+975 – 103+025 ดินสไลด์ปิดทับผิวทาง

5. ทล.1081 บ่อเกลือ – เฉลิมพระเกียรติ ช่วงกม.ที่ 149+700 – 150+000 ดินสไลด์ปิดทับผิวทาง

6. ทล.1097 เชียงกลาง – หางทุ่ง ช่วงกม.ที่ 7+500 – 7+600 ดินสไลด์ปิดทับผิวทาง

7. ทล.1256 ปัว – อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ช่วงกม.ที่ 25+000 – 26+000 ดินสไลด์ปิดทับผิวทาง

อย่างไรก็ตาม ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ภัยพิบัติกรมทางหลวง ได้ติดตามสถานการณ์พายุวิภาอย่างใกล้ชิด โดยขอความร่วมมือประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนในพื้นที่ภาคเหนือและอีสานตอนบนเพิ่มความระมัดระวังใน  การเดินทาง หลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีฝนตกหนักและปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด สามารถสอบถามข้อมูลเส้นทางได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 ตลอด 24 ชั่วโมง

ข้อมูลอ้างอิง

ความรู้ด้านการทำเกษตรอินทรีย์ที่น่าสนใจ ล่าสุดในตอนนี้

ปลูกผักบุ้งในโอ่งอย่างไรให้ได้กินตลอดปี

ผักบุ้ง ผักสวนครัวและผักท้องถิ่นที่ชาวไทยเราคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะปลูกง่าย มีทั่วไป บางแห่งไม่จำเป

อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม
อาการของต้นพืชแบบไหนที่แปลว่าขาดสารอาหาร

ถ้าคุณอยากปลูกพืชผัก ผลไม้ หรือพืชพันธุ์ต่างๆ ให้งอกงามและได้ผลดี ก็จำเป็นอย่างมากที่ต้องอ่านเรื่องน

อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม
ผลไม้ที่ออกลูกทั้งปี ปลูกแล้วมีกินตลอด

มีสวนมีไร่ แนะนำให้ปลูกผลไม้ที่ออกผลทั้งปี ปลูกแค่ไม่กี่อย่าง แต่ให้ลูกให้ผลตลอดทั้งปี คุ้มมาก

อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม
ข้าวโพดฝักอ่อน ปลูกง่าย สร้างรายได้เร็ว

ทำเกษตรอินทรีย์ที่ได้ประโยชน์สูงสุด ควรทำแบบมีทิศทางที่แน่นอน และชัดเจน เช่นการปลูกข้าวโพดฝักอ่อน

อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม
สร้างรายได้ด้วยการปลูกสละ

จากข้อมูลที่แนะนำเข้ามา ว่าการปลูกสละ สามารถสร้างรายได้ ได้ตลอดทั้งปีนั้น สอบถามไปยังคุณลุงสว่าง รัก

อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม
ไม้ผล 50 ชนิด ที่ควรปลูกไว้ติดสวน

ไม้ผล 50 ชนิด ตามความจำเป็น และประโยชน์ใช้สอยเด่น เป็นพืชทนแล้ง ทนน้ำท่วม รวมถึงปลูกแล้วให้ผลผลิตได้

อ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม

แนะนำสินค้าจัดโปรโมชั่นพิเศษ

สถิติการรีวิวล่าสุด

คุณก็รีวิวบทความเราได้ แค่แชร์ แนะนำ หรือบอกต่อให้กับเพื่อนคุณ 💚

บทความเกษตรน่าสนใจ

แนะนำบทความเกี่ยวกับการทำเกษตรอินทรีย์ที่น่าสนใจ และน่าติดตาม บทความยอดนิยม

แนะนำบทความยอดนิยม ในหมวดต่าง ๆ เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับสมาชิกที่ต้องการเรียนรู้การทำเกษตรอินทรีย์แบบพอเพียง และยั่งยืน เนื้อหาเข้าใจง่าย ทำได้จริง จากผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตรโดยตรง

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของคุณขณะใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถเลือกที่จะยอมรับได้โดยคลิกที่ปุ่มได้เลย