จะเกิดอะไรขึ้นหากระบบเกษตรกรรมเกิดการแข่งขัน : บทความน่ารู้ เกษตรอินทรีย์แบบพอเพียง

เปิดศึกชาวนา กับหัวข้อน่ารู้ จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อเกษตรกรรม ผสมรวมเข้ากับการแข่งขันแบบเต็มตัว

หากเมื่อได้ยินคำว่า “ชาวนา” และ “เกษตรกรรม” หลายคนอาจมองว่า มันเป็นสิ่งที่น่าเบื่อ ไม่น่าตื่นเต้นเร้าใจ เพราะการทำเกษตรในความหมายที่เข้าใจกันอย่างแพร่หลาย นั่นคือ การปลูกพืช ทำสวน เลี้ยงปลาเลี้ยงสัตว์เพื่อความเป็นอยู่ และอาจมีผลกำไรให้เห็นได้เพียงเล็กน้อย

ไม่ใช่การทำเพื่อเหรียญรางวัล หรือเกียรติยศชื่อเสียง หรือต้องการความร่ำรวยยิ่งใหญ่ แต่ในบางประเทศ ผู้คนกลับทำให้เรื่องของ เกษตรกรรม กลายเป็นเรื่องตื่นเต้นเร้าใจผ่านการสร้างการแข่งขันในด้านต่าง ๆ ทั้งเพื่อการสร้างเเรงจูงใจ ให้รางวัล และทำให้ภาพลักษณ์ของเกษตรกรรม และเกษตรกร เปลี่ยนแปลงไปในสังคม เกิดชื่อเสียงและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่จะเกิดมาในอนาคต ได้อีกด้วย

สำหรับในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่า รายการแข่งขันที่ว่ามานั้น จะมาในรูปแบบไหนกันบ้าง?

การแข่งขันเชิงเกษตรกรรม

สำหรับการแข่งขันในส่วนนี้ น่าจะเป็นส่วนที่เรียบง่ายและตรงประเด็นที่สุด คือ เป็นการแข่งขันด้านผลผลิต ไม่ว่าจะเป็นปริมาณ คุณภาพ หรือประสิทธิภาพในการเก็บเกี่ยวผลผลิต เช่น การแข่งเกี่ยวข้าว เเข่งกรีดยางพารา แข่งจับปลา ซึ่งถือเป็นประเภทการแข่งขันที่จัดขึ้นได้ง่าย ทั้งในระดับเล็ก ๆ อย่างระดับหมู่บ้านหรือระดับชุมชน ไปจนถึงระดับจังหวัด หรือระดับประเทศ

นอกเหนือจากการแข่งขันในลักษณะนี้แล้ว ยังมีการวัดคุณภาพเรื่องของผลผลิต ดังที่เราจะเห็นอยู่บ่อย ๆ ในงานเกษตรแฟร์ทั้งหลาย ที่เกษตรกรส่วนใหญ่ จะเน้นผลผลิต และโชว์ศักยภาพในด้านคุณภาพของผลผลิต ให้ได้เห็นกัน ไม่ว่าจะเป็น ขนาด รูปร่าง

รวมไปถึง น้ำหนักของสินค้าเกษตร เพื่อช่วยสร้างความบันเทิงให้กิจกรรมที่น่าเบื่อหน่ายของการทำเกษตร ให้ได้รับความนิยม และยังช่วยทำให้เกิดการพูดถึง เกิดความตระหนัก และความเข้าใจที่มากขึ้นเกี่ยวกับการทำเกษตร จากเกษตรกรทั่วประเทศ ได้มากขึ้นได้อีกด้วย

ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็สามารถดึงดูดความสนใจ และสามารถเพิ่มราคา ให้กับสินค้าเกษตร ได้เป็นอย่างดีและแพร่หลาย

การแข่งขันเชิงเยาวชนและสังคม

สำหรับในสหราชอาณาจักร มีการแข่งขันที่จัดขึ้นโดยมูลนิธิด้านการศึกษา LEAF Education ชื่อว่าการแข่งขันระดับชาติในด้านอาหาร เกษตรกรรม และสิ่งแวดล้อม (The National Competition in Food, Farming and Natural Environment) โดยจะเป็นการแข่งขันระหว่างเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3-5 จากโรงเรียน 6 แห่งทั่วทั้งสหราชอาณาจักร

โดนจะให้เด็กนักเรียน ได้มาคลุกคลีกับกิจกรรมเชิงเกษตรกรรมในวิทยาศาสตร์ด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรม เทคโนโลยี พันธุศาสตร์ หรือชีววิทยา ก่อนจะต้องนำเสนอสิ่งที่ได้รับจากการลงสนาม พร้อมทั้งเสนอว่าตนเองมีมุมมองที่เปลี่ยนไปอย่างไรต่อเกษตรกรรม พร้อมมีข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนาศักยภาพด้านเกษตรกรรมที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพทั้งในด้านอาหาร สิ่งแวดล้อม หรือความเป็นอยู่ของสิ่งมีชีวิตในฟาร์ม

กิจกรรมเหล่านี้ น่าจะเหมาะสมกับประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่เกษตรกรรมยังคงเป็นบ่อน้ำเลี้ยงหลักทางเศรษฐกิจ ทั้งยังเป็นฐานประชากรที่มีจำนวนมากที่สุด แต่ได้รับโอกาสหรือความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐบาลอย่างไม่ทั่วถึงที่สุดอีกด้วย

การแข่งขันกีฬาอีสปอร์ต

ใครจะไปคิดว่า เป็นเกมที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการจำลองชีวิตเกษตรกรอย่าง Farming Simulator จะมีการแข่งขันที่เป็นแบบการเล่นกีฬาอีสปอร์ตอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในประเทศเยอรมนี พร้อมมีเงินรางวัลมากถึง 15,000 ยูโรหรือเกือบ 6 แสนบาท โดยมีการเเข่งขันในหลากหลายประเภท หลากหลายรูปแบบ มีทีมแข่งขันมากมายเกิน 20 ทีม

ลักษณะการแข่งขันที่โดดเด่น

การแข่งจันแต่ละแมตช์จะใช้เวลา 15 นาที มีผู้เล่น 2 ทีม ทีมละ 3 คนลงแข่งขัน เป้าหมายของการแข่งขันคือการเกี่ยวข้าว มัดกองข้าว และนำกองข้าวไปส่งที่โรงนา พร้อมทั้งขนส่งมันออกไปขายต่ออีกด้วย โดยจะมีการคิดคะแนนจากกองข้าวแต่ละกอง รวมถึงมีการคิดคะแนนโบนัสสำหรับการส่งข้าวสำเร็จ

กลยุทธ์ในการแข่งขัน

จะต้องมีการเลือกยานพาหนะและอุปกรณ์ให้เหมาะสมก่อนเริ่มเกม ทั้งจะต้องมีการควบคุมรถเกี่ยวข้าวให้เเม่นยำ เนื่องจากพื้นที่เกษตรมีความลาดเอียง และมีการวางแผนเส้นทางไปยังโรงนา โดยจะมีเส้นทางอ้อมที่ขับง่ายแต่ระยะทางไกล ส่งผลให้ผู้เล่นที่ขับเร็วเพื่อประหยัดเวลาอาจจะทำข้าวตกหล่นได้ และเส้นทางลัดที่บั่นระยะเดินทางลงเยอะมาก แต่ก็จะขับยากขึ้นและอาจเกิดอุบัติเหตุได้

สรุปสุดท้ายนี้ เห็นกันหรือยังว่า ทั่วโลก ผู้คนมีแนวคิดอันสร้างสรรค์มากมายที่จะทำให้เกษตรกรรมมีชื่อเสียงที่ดีขึ้น จากการเป็นกิจกรรมน่าเบื่อ น่าเหนื่อยหน่าย ก็กลายเป็นกิจกรรมที่สนุกได้ทั้งในโลกแห่งความเป็นจริงและในโลกของเกม

เห็นท่าแบบนี้ สงสัยว่าถ้าประเทศไทยของเราลองเอามาปรับใช้ดูบ้าง คงจะช่วยผลักดันวงการเกษตรของเราให้เป็น “soft power” ตามที่มุ่งหวังกันได้ไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว