เมื่อนึกถึงแหล่งผลิตกาแฟ หลายคนอาจนึงถึงประเทศใหญ่อย่าง บราซิล โคลัมเบีย ไปจนถึงอินโดนีเซีย แต่ในความเป็นจริงแล้ว รู้หรือไม่ว่า เวียดนาม เป็นประเทศที่ส่งออกกาแฟรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก
เวียดนาม มีการส่งออกกาแฟทั้งประเทศกว่า 1.4 ล้านเมตริกตันรองจากบราซิล (2.5 ล้านเมตริกตัน) การผลิตกาแฟของเวียดนาม กลายเป็นแหล่งรายได้หลักของประเทศมาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20
เพราะเวียดนามสามารถปลูกต้นกาแฟได้หลากหลายประเภท ได้แก่ อาราบิก้า, โรบัสต้า และอื่น ๆ อีกหลายสายพันธุ์ ซึ่งแหล่งปลูกที่สำคัญอยู่บริเวณที่ราบสูงทางภาคกลางของประเทศ
เปิดประวัติกาแฟชาวเวียดนาม
ประวัติศาสตร์กาแฟของชาวเวียดนาม เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ฝรั่งเศสเข้าครอบครองเวียดนามในฐานะประเทศอาณานิคม ชาวฝรั่งเศสเป็นผู้นำกาแฟเข้ามาปลูกในเวียดนาม และมีการตั้งโรงงานแปรรูปกาแฟครั้งแรกในปี 1950
หลังจากเวียดนามเหนือได้รับชัยชนะในสงครามเวียดนาม และในปี 1975 พรรคคอมมิวนิสต์ของเวียดนามได้ปรับการปลูกกาแฟแบบนารวมให้เป็นไปตามแบบแผนโมเดลของประเทศคอมมิวนิสต์ แต่การใช้โมเดลนี้กลับสร้างหายนะครั้งใหญ่ให้แก่ประเทศเวียดนามเลยทีเดียว
ด้วยเหตุนี้เองในปี 1986 จึงมีการปรับเปลี่ยนนโยบายการเกษตรขึ้นมาใหม่ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผลผลิตกาแฟของชาวเวียดนามก็โตขึ้นราว 20% – 30% ในทุก ๆ ปี ตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1990 ชาวเวียดนามหลายแสนคนสร้างรายได้จากการปลูกกาแฟขาย และมีประชากรบางส่วนถึงขั้นกลายเป็นเศรษฐีเพราะกาแฟกันเลยทีเดียว
เพราะอะไรกาแฟเวียดนามถึงเป็นที่นิยม ?
ในปี 2557 เวียดนามมีพื้นที่เพาะปลูกต้นกาแฟประมาณ 653,352 เฮคเตอร์ ส่วนใหญ่อยู่บนที่ราบสูงทางตะวันตก นอกจากนี้ยังพบการปลูกกาแฟในบริเวณภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และชายฝั่งทะเล รวมถึงภาคตะวันตกเฉียงใต้ การปลูกต้นกาแฟแต่ละสายพันธุ์จะขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของพื้นที่ที่แตกต่างกันออกไป นอกจากโรบัสต้าและอาราบิก้าแล้ว ก็มีสายพันธุ์เอ็กซ์เซลซ่า, พันธุ์อาราบิก้าชื่อคาติมอร์ ทำให้ผู้ผลิตกาแฟเวียดนามสามารถนำไปเบลนด์ เพื่อเพิ่มความแตกต่างด้านกลิ่น รสชาติ และเนื้อสัมผัสของกาแฟ
พฤติกรรมการดื่มกาแฟของชาวเวียดนาม
คนเวียดนามดื่มกาแฟวันละหลายแก้ว และดื่มในทุกวันก่อนไปทำงาน ดื่มกาแฟเมื่อพักกลางวัน แม้กระทั่งในช่วงหัวค่ำ ไม่แพ้ประเทศอื่น ร้านกาแฟริมทางจะเต็มไปด้วยผู้คนที่คราคร่ำไปด้วยคอกาแฟทั้งหลาย ซึ่งรสชาติกาแฟของชาวเวียดนามที่ชื่นชอบกันจะมีรสชาติเข้มข้น หวานมัน และในบางครั้งอาจจะแต่งกลิ่นหรือนำวัตถุดิบอื่น ๆ มาผสมด้วย ไม่ว่าจะเป็นกาแฟคั่วใส่คาราเมล น้ำผึ้ง น้ำตาล เพื่อให้กาแฟมีรสชาติกลมกล่อมมากขึ้น คล้ายกับคนมาเลเซีย ดูเรื่อง กาแฟอาราบิก้า พันธุ์ที่ชาวมาเลเซียนิยมดื่ม
จากพฤติกรรมการดื่มกาแฟที่เปลี่ยนไปของคนเวียดนาม บวกกับความเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ ส่งผลให้ร้านกาแฟกลายเป็นธุรกิจสมัยใหม่ที่ได้รับความนิยม
โดยมีทั้งแฟรนส์ไชส์ และร้านคาเฟ่ท้องถิ่นชิค ๆ เปิดสาขาอย่างรวดเร็วในหลายพื้นที่ ทั้งในนครโฮจิมินห์ เช่น Trung Nguyen, Highland, Starbuck ฯลฯ และทั่วประเทศ
การออกแบบร้านกาแฟสมัยใหม่หลายร้านจะมีเมล็ดกาแฟคั่วตั้งโชว์อยู่หน้าร้าน โดยจะบดและชงกาแฟต่อหน้าลูกค้า เพื่อทำให้ลูกค้ามั่นใจในเรื่องการใช้เมล็ดกาแฟแท้และการบริโภคกาแฟที่สดใหม่ สะอาด มีมาตรฐานในทุกแก้ว
แต่รู้หรือไม่ว่า กาแฟไม่ได้ได้มีประโยชน์ในเชิงการบริโภคเท่านั้น แต่ยังมีสรรพคุณที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สวยงามเปล่งปลั่งด้วย ดังนั้น The Ordinary แบรนด์สกินแคร์ออแกนิคชื่อดังระดับโลกจึงมีการผสมคาเฟอีนเข้าไปในผลิตภัณฑ์หลายตัว
เพราะในเมล็ดกาแฟนั้นอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนสำคัญในการช่วยปกป้องผิวจากการถูกทำลายโดยมลภาวะต่าง ๆ ซึ่งเป็นตัวการของริ้วรอยเหี่ยวย่น แก่ก่อนวัย อีกทั้งยังมีสรรพคุณช่วยให้หน้าใส ยับยั้งรอยเหี่ยวย่น ช่วยให้เซลล์ผิวแข็งแรงขึ้น และลดรอยหมองคล้ำบนผิวหนังได้อย่างดีเยี่ยม
เทคนิค วิธีการ
พื้นที่น้อย
การทำปุ๋ย
ขยายพันธุ์พืช