เนื้อหาเก่า
ช่วงนี้ยุ่งจนไม่ได้ update ข่าวสารการเกษตรบ่อยนัก อาจทำให้ใครหลายๆ คนติดขัดหรือรู้สึกหงุดหงิดที่ไม่มีข่าวใหม่ๆ ให้อ่านกันอย่างเคยๆ ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย วันนี้ว่างเลยมานำเสนอเกี่ยวกับการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรของมังคุดกัน เพราะใกล้หน้าฝนแล้วมังคุดที่เก็บเกี่ยวได้อาจขายไม่ได้ราคา จึงขอนำเสนอวิธีการแปรรูปและเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้าอย่าง มังคุด
โดยคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก จังหวัดจันทบุรี ได้นำผลไม้ท้องถิ่น มาแปรรูปเพิ่มมูลค่าเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น เยลลี่ลูกหว้าคาราจีแนน , ขนมไดฟูกุมังคุด และข้าวเหนียวสังขยามังคุดเพื่อเพิ่มช่องทางตลาดให้เกษตรกร
"ข้าวเหนียวสังขยามังคุด" เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ และขนมไทยประยุกต์ที่เกษตรกรคุ้นเคยและทำได้ง่าย โดยขั้นตอนแรกให้เตรียมน้ำจากผิวเปลือกมังคุดก่อน โดยใช้ผิวเปลือกมังคุดสดหรือแห้งก็ได้ นำไปใส่ในน้ำเดือดจนน้ำเปลี่ยนสี แล้วปรับสี ด้วยการเติมน้ำมะนาวลงไป จะเปลี่ยนเป็นสีชมพู หรือหากต้องการน้ำสีม่วงก็ให้เติมน้ำปูนใสลงไปแทน ก็จะได้น้ำผิวเปลือกมังคุดไปใช้แต่งสีในข้าวเหนียวที่นึ่งแล้ว
ระหว่างรอนึ่งข้าวเหนียว จะเตรียมหน้าสังขยา โดยใช้ไข่เป็ด น้ำตาลอ้อย น้ำกะทิ แป้งข้าวเจ้า เกลือ และน้ำมังคุด มาใส่ในภาชนะ ขยำส่วนผสมรวมกับใบเตย แล้วตีจนเนื้อฟู นำไปนึ่งนาน 5 ถึง 7 นาที จนสุก เมื่อข้าวเหนียวสุกแล้วให้นำมามูน โดยใช้หัวกะทิ น้ำตาลทราย และเกลือผสมให้เข้ากัน ใส่ข้าวเหนียวที่กำลังร้อนลงไป ปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที น้ำมูนก็จะเข้าเนื้อ นำไปใส่ในกะทงใบเตย หรือบรรจุภัณฑ์ แล้วใช้แบบพิมพ์กดสังขยาเป็นรูปแบบต่าง ๆ วางบนหน้าข้าวเหนียว หรือจะทำขนมโมจิโดยใช้ลำไยสอดไส้แยมมังคุด ห่อด้วยข้าวเหนียวมูน ก็ได้
ข้าวเหนียวสังขยามังคุด และขนมโมจิสอดไส้แยมมังคุดมีต้นทุนที่ 15 บาท ต่อ 4 ชิ้น ขายได้ในราคา 25 บาท และยังเป็นขนมไทยที่มีคุณค่าทางอาหารสูงขึ้นจากการนำมังคุดมาใช้เป็นส่วนผสม
ข้อมูลเพิ่มเติม:
สาขาเทคโนโลยีการจัดการและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ม.เทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก จันทบุรี
โทร.039-307-279