การแจ้งเตือน
ลบทั้งหมด

รับลงโฆษณาสินค้า หรือมีเนื้อหาและแนบลิ้งด้วย รวมไปถึงการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในด้านต่าง ๆ ใครอยากลงประกาศขายสินค้า หรือโพสประกาศฟรี โปรดติดต่อที่ ติดต่อเรา กฏข้อห้ามเล็กน้อย ไม่อนุญาตเนื้อหาเกี่ยวกับ สถาบัน การเมือง หมิ่นประมาท การพนันและผิดกฏหมาย เนื้อหาเกี่ยวกับเพศ เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ ไม่รับทุกกรณี

สภาเอกฉันท์ คุ้มครองแรงงาน ลาพ้กร้อนได้ 10 วัน ลาปวดปจด. ทำงานไม่เกิน 40 ชม.

1 กระทู้
1 ผู้ใช้
0 Reactions
31 เข้าชม
ทำเกษตร
กระทู้: 235
Admin
หัวข้อเริ่มต้น
(@admin)
สมาชิก
เข้าร่วม: 6 ปี ที่ผ่านมา

สภาเอกฉันท์ รับหลักการร่วมกม.คุ้มครองแรงงาน 2 ฉบับ เสนอลาพ้กร้อนได้ 10 วัน ลาปวดปจด. ทำงานไม่เกิน 40 ชม.

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 กันยายน ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาฯคนที่สอง เป็นประธานในที่ประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่..) พ.ศ…2 ฉบับ ที่เสนอโดย นายจรัส คุ้มไข่น้ำ ส.ส. ชลบุรี พรรคประชาชน ร่วมด้วยคณะ ส่วนอีกร่างเสนอโดย น.ส.วรรณวิภา ไม้สน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ร่วมกับคณะ ซึ่งเป็นการพิจารณาไปในคราวเดียวกัน

โดยนายจรัส เสนอหลักการและก็เหตุผลว่า เป็นการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 หมายความแก้ไขเพิ่มเติมระยะเวลาการทำงานของลูกจ้าง แก้ไขเพิ่มเติมวันหยุดประจำสัปดาห์ของลูกจ้าง แก้ไขเพิ่มเติมสิทธิ์ลาหยุดพักผ่อนประจำปี ของลูกจ้าง การเสนอแก้ไขเพราะเห็นว่าร่างพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ปี 2541 ที่ใช้บังคับในปัจจุบัน มีบางบทบัญญัติไม่เหมาะสมกับสภาพการปัจจุบัน ประกอบกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ผู้ใช้แรงงานมากกว่า 30 ล้านคนในตลาดแรงงาน มีปัญหาความมั่นคงทางเศรษฐกิจ การแก้ไขครั้งนี้เพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนผู้ใช้แรงงานโดยรวม เพื่อให้เกิดความมั่นคงทางเศรษฐกิจ การคุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เพิ่มอำนาจการต่อรองซึ่งสอดรับกับการพัฒนาสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์

นายจรัส กล่าวว่า แก้ไขเพิ่มเติมระยะเวลาการทำงานของลูกจ้าง โดยกำหนดให้ระยะให้การทำงานของลูกจ้างเมื่อรวมระยะเวลาทำงานทั้งสิ้นแล้ว 1 สัปดาห์ต้องไปเกิน 40 ชั่วโมง เว้นแต่งานที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและก็ความปลอดภัยของลูกจ้าง ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง เมื่อรวมเวลาทำงานทั้งสิ้นแล้ว 1 สัปดาห์ต้องไม่เกิน 35 ชั่วโมง ส่วนการแก้ไขเพิ่มเติมวันหยุดประจำสัปดาห์ของลูกจ้าง กำหนดให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์ 1 สัปดาห์หยุดไม่น้อยกว่า 2 วัน โดยวันหยุดประจำสัปดาห์ต้องมีระยะห่างกันไม่เกิน 5 วัน สำหรับการแก้ไขเพิ่มเติมวันหยุดพักผ่อนประจำปีของลูกจ้าง แก้ไขเพิ่มเติมโดยกำหนดให้ลูกจ้างทำงานติดต่อกันมาแล้วครบ 120 วันมีสิทธิลาหยุดพักผ่อนประจำปี 1 ปี ไม่น้อยกว่า 10 วันทำงาน รวมทั้งกำหนดให้ในปีต่อมานายจ้างอาจกำหนดให้วันหยุดพักผ่อนประจำปีให้แก่ลูกจ้างมากกว่า 10 วันก็ได้ รวมทั้งนายจ้างอาจกำหนดวันหยุดพักผ่อนประจำปีให้แก่ลูกจ้าง โดยคำนวณให้ตามสัดส่วนก็ได้ สำหรับสำหรับลูกจ้างที่ยังทำงานไม่ครบ 120 วัน

นายจรัส กล่าวว่า ทั้งนี้จากการรับฟังความคิดเห็น ฝ่ายที่เห็นด้วย เห็นว่าการลดชั่วโมงการทำงานลงเพื่อให้มีความยึดหยุ่น สามารถช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ องค์กร และประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานให้ดีขึ้นได้ รวมถึงช่วยให้พนักงานบวกกับครอบครัวสามารถมีความสมดุลระหว่างการใช้ชีวิตประกอบกับการทำงาน ส่งเสริมความเสมอภาคของโอกาสร่วมกับการปฏิบัติที่ทัดเทียมในการจ้างงานและอาชีพเพื่อขจัดการเลือกปฏิบัติ ซึ่งสอดคล้องกับอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ฉบับที่ 111 ว่าด้วยการเลือกปฏิบัติในการจ้างงานรวมถึงอาชีพ พ.ศ. 2501 ส่วนฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยเห็นว่า อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจ ทำให้ต้นทุนแรงงานเพิ่มขึ้นกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงาน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ต้องใช้แรงงานต่อเนื่อง แล้วก็นายจ้างประเภท เอสเอ็มอี ซึ่งมีโอกาสทำให้ต้องปิดกิจการหรือย้ายกิจการไปเปิดในประเทศอื่น จึงควรกำหนดข้อยกเว้นสำหรับบางอุตสาหกรรม เพื่อให้สามารถจัดวันหยุดได้อย่างยืดหยุ่น หมายรวมไปถึงควรมีมาตรการช่วยเหลือนายจ้างที่ต้องปรับตัวกับกฎหมายใหม่ เช่นการลดภาษี หรือการให้เงินสนับสนุนสำหรับธุรกิจที่ต้องปรับโครงสร้างแรงงาน

นายจรัส กล่าวต่อว่า จากการวิเคราะห์ผลกระทบของร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ พบว่ามีความสอดคล้องกันกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ประกอบไปด้วยพ.ร.บ.กองทุนประกันสังคม พ.ศ. 2533 ประชาชนจะได้รับประโยชน์ ก่อให้เกิดการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนผู้ใช้แรงงานโดยรวม เพื่อให้เกิดความมั่นคงทางเศรษฐกิจประกอบกับสังคม การคุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เพิ่มอำนาจการต่อรองร่วมด้วยเพิ่มเวลาเรียนรู้สำหรับแรงงานเพื่อพัฒนาตนเอง ส่งเสริมให้การจ้างงานมีความเท่าเทียมกันมากยิ่งขึ้น โดยขยายกรอบการจ้างงานรวมไปถึงการปฏิบัติต่อลูกจ้างที่ไม่เลือกปฏิบัติ รวมถึงการช่วยเหลือพนังงานประกอบไปด้วยครอบครัวให้มีความสมดุลระหว่างการใช้ชีวิตรวมถึงการทำงาน

ด้าน น.ส.วรรวิภา ชี้แจงหลักการเห็นผลว่า ร่างพ.ร.บ.ที่ตนเสนอนั้น น่าสนใจเช่นนั้นแล้วคือมีกลุ่มคนที่กำหลังเข้าสู่วัยแรงงาน บวกกับคนที่กำลังจะเรียนจบเข้ามาสู่ตลาดแรงงาน โดยร่างแก้ไขฉบับนี้มีทั้งหมด 4 ประเด็นหลัก หมายความว่า1.การไม่เลือกปฏิบัติในที่ทำงาน เดิมมาตรา15 เขียนไว้ว่าให้นายจ้างปฏิบัติต่อลูกจ้างทั้งชายรวมถึงหญิงอย่างเท่าเทียมกัน โดยจะแก้ไขให้เป็นนายจ้างปฏิบัติต่อลูกจ้างทั้งชายร่วมกับหญิงแล้วก็ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นด้วยเพศสภาพ ศาสนา ความเชื่อ หรือทัศนคติทางการเมืองที่ไม่ตรงกัน 2. วันลา ให้ลูกจ้างมีสิทธิ์ลาเพื่อไปดูแลคนในครอบครัว เพราะมีหลายคนที่ไม่สามารถลาไปดูคนในครอบครัวในช่วงลมหายใจสุดท้ายได้ เพราะเพราะนายจ้างไม่ให้ลา หรือลางานไม่ได้ 3.มุมให้นมแม่ ให้นายจ้างจัดให้มีพื้นที่ปลอดภัยมิดชิด หมายรวมไปถึงมีอุปรกรณ์ในการจัดเก็บ การปั้มนม ให้ในที่ทำงาน โดยเวลาพักสามารถปั๊มนมในที่ทำงานได้ แม้เราจะผ่านกฎหมานลาดคลอด 120 วันไปแล้ว แต่อย่าลืมว่าทารกควรได้รับนมแม่อย่างน้อย 180 วันหรือมากกว่านั้น และก็4. วันลากรณีที่มีการปวดประจำเดือน โดยไม่ถือเป็นวันลาป่วย

“เรื่องนี้เรามีการทุกเถียงกันเป็นอย่างมากว่าการลาปวดประจำเดือนจะเป็นการให้สิทธิ์แก่แรงงานผู้หญิงมากไปหรือไม่ ต้องทำความเข้าใจว่าถ้าใครหลายคนที่มีการปวดประจำเดือน แต่ไม่มีปัญหาอะไรเลยในการปวดประจำเดือนนั้น ถือว่าเป็นโชคดีของท่านแต่หลายคนไม่ได้โชคดีแบบนั้น เรื่องนี้ดิฉันเข้าใจเป็นอย่างดีเพราะว่าตัวดิฉันเองประสบพบเจอด้วยตัวเองเพราะทุกครั้งที่มีอาการปวดประจำเดือนจะปวดท้องอย่างรุนแรงประกอบไปด้วยมีเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ในวันนั้นไม่สามารถที่จะทำงานได้หรือฝืนตัวเองมาทำงานก็ทำงานได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพรวมถึงมี 2 ครั้งที่ดิฉันขาดโหวตสำคัญในสภาแห่งนี้ เป็นเพราะเหตุจากการปวดท้องอย่างหนักทำให้ไม่สามารถทำงานได้ เลยตัดสินใจผ่าตัดเอามดลูกบวกกับรังไข่ออกหนึ่งข้าง เพราะเหตุเริ่มต้นมาจากการปวดประจำเดือน”น.ส.วรรวิภา กล่าว

น.ส.วรรวิภา กล่าวว่า ในหลายประเทศมีการให้ลาปวดประจำเดือนได้ เช่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวั่น อินโดนิเซีย รวมทั้งเวียดนาม ที่เขาทำร่องไปก่อนแล้ว และก็จากผลสำรวจมีลูกจ้างที่ปวดประจำเดือนมาจริงๆไม่ถึง 1% หมายความว่าสิ่งที่ใครหลายคนคิดว่าการปล่อยให้ผู้หญิงลาปวดประจำเดือนได้อาจจะทำให้ทุกคนแห่กันลาปวดประจำเดือนซึ่งเรื่องนี้ตามสถิติแล้วไม่เป็นความจริง เพราะฉะนั้นการลาปวดประจำเดือนอาจจะไม่ใช่การให้สิทธิ์พิเศษต่อเพศใดเพศหนึ่งแต่อาจจะเป็นทัศนคติเรื่องความเท่าเทียมทางเพศที่เราควรทำความเข้าใจกันใหม่หรือไม่ ซึ่งเรื่องเหล่านี้สามารถพูดคุยร่วมกับถกเถียงกันในชั้นกรรมาธิการได้

จากนั้นเปิดให้สมาชิกอภิปรายแสดงความคิดเห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานทั้ง 2 ฉบับ รวมถึงลงมติร่างของนายจรัส รับหลักการ เห็นด้วย 333 เสียง ไม่เห็นด้วยไม่มี งดออกเสียง 4 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง ร่วมด้วยตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญขึ้นมาพิจารณา 31 คน กำหนดแปรญัตติ 15 วัน

ขณะที่ร่างของน.ส.วรรวิภา ที่ประชุมลงมติรับหลักเห็นด้วย 329 เสียง ไม่เห็นด้วยไม่มี งดออกเสียง 2 เสียง ไม่ลงคะแนน 4 เสียง และ ตั้งงคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญขึ้นมาพิจารณา 39 คน เนื่องจากร่าง พ.ร.บ.นี้มีสาระเกี่ยวกับสตรี กำหนดให้ตั้งกมธ.วิสามัญจากบุคคลดังกล่าว หรือผู้แทนองค์กรเอกชนที่เกี่ยวกับสตรีโดยตรง จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของกมธ.ทั้งหมดคือจำนวน 13 คน บวกกับกำหนดแปรญัตติ 15 วัน


เนื้อหาเรียบเรียงใหม่จากต้นฉบับข่าวทาง มติชนออนไลน์ อย่าพลาดเรื่องราวใหม่ ๆ จากทางเรา ที่เดียว ทำเกษตรอินทรีย์ รวมทุกข้อมูลในการทำเกษตรอินทรีย์แบบพอเพียง ฉบับทำเองเข้าใจง่าย