การแจ้งเตือน
ลบทั้งหมด

รับลงโฆษณาสินค้า หรือมีเนื้อหาและแนบลิ้งด้วย รวมไปถึงการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในด้านต่าง ๆ ใครอยากลงประกาศขายสินค้า หรือโพสประกาศฟรี โปรดติดต่อที่ ติดต่อเรา กฏข้อห้ามเล็กน้อย ไม่อนุญาตเนื้อหาเกี่ยวกับ สถาบัน การเมือง หมิ่นประมาท การพนันและผิดกฏหมาย เนื้อหาเกี่ยวกับเพศ เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ ไม่รับทุกกรณี

กล้าพริกไทยพันธุ์ปะเหลียน

1 กระทู้
1 ผู้ใช้
0 Reactions
1,122 เข้าชม
ทำเกษตร
กระทู้: 237
Admin
หัวข้อเริ่มต้น
(@admin)
สมาชิก
เข้าร่วม: 6 ปี ที่ผ่านมา

กรมวิทย์ฯมอบ ‘กล้าพริกไทยพันธุ์ปะเหลียน’ ให้ ผวจ.ตรังส่งเสริมปลูกในพื้นที่เป็นพืชเศรษฐกิจ 

วันนี้ (24 มิถุนายน 2568) ที่โรงแรมเรือรัษฎา อ.เมือง จ.ตรัง นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มอบต้นกล้าพริกไทยพันธุ์ปะเหลียนจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช ให้แก่ นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นความสำเร็จจากความร่วมมือกันระหว่างกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดย สถาบันวิจัยสมุนไพร ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 12 สงขลา และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 12/1 ตรัง ร่วมกับเครือข่ายภายใน จ.ตรัง

ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรผู้ปลูกพริกไทยพันธุ์ปะเหลียน ในการดำเนินโครงการศึกษาและอนุรักษ์พันธุ์พริกไทยพื้นเมืองของไทยด้วยเทคนิคชีวโมเลกุล เพื่อพัฒนาไปสู่พืชเศรษฐกิจทางการแพทย์ โดยมี นพ.พิเชฐ บัญญัติ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์ฯ นพ.วัชรพงษ์ คำหล้า รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์ฯ ผู้บริหารกรมวิทยาศาสตร์ฯ และ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ หัวหน้าส่วนราชการ จ.ตรัง ผู้บริหารมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง ผู้แทนกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรผู้ปลูกพริกไทยพันธุ์ปะเหลียน และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธี

นพ.ยงยศ กล่าวว่า พริกไทยพันธุ์ปะเหลียน เป็นพริกไทยพันธุ์พื้นเมืองของจังหวัดตรัง เป็นพันธุ์ดั้งเดิมที่ปลูกกันมาตั้งแต่โบราณ มีประวัติการปลูกมานับ 100 ปี และยังคงมีต้นพันธุ์ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ มีเอกลักษณ์เฉพาะที่โดดเด่น คือ มีรสชาติที่เผ็ดร้อนกำลังดี มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เมล็ดเล็ก ฝักแน่น เหมาะกับการกินสดและแห้ง จึงเป็นที่นิยมในร้านอาหารเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีคุณค่าทางโภชนาการและสรรพคุณทางยาอีกด้วย จากการศึกษาพบว่า พริกไทยอุดมไปด้วยสารสำคัญหลายชนิด เช่น สารไพเพอร์รีน (Piperine) ที่มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการต้านเชื้อรา แบคทีเรีย ต้านอนุมูลอิสระ และมีศักยภาพในการนำไปพัฒนาเป็นยาสำหรับรักษาโรคลมชัก

“กรมวิทยาศาสตร์ฯ เล็งเห็นถึงคุณประโยชน์และศักยภาพของพริกไทยพื้นเมือง จึงได้นำเทคโนโลยีชีวโมเลกุลอันทันสมัยมาประยุกต์ใช้ในการศึกษาและจัดจำแนกพันธุ์ โดยการศึกษา อย่างละเอียดทั้งด้านสัณฐานวิทยา (พฤกษอนุกรมวิธาน) การระบุชนิดด้วยเทคนิคทางพันธุกรรมระดับโมเลกุล (Genome sequencing และ DNA barcode) การศึกษาเอกลักษณ์ทางเคมี และเอกลักษณ์ทางเภสัชเวท เพื่อสร้างฐานข้อมูลที่ครบถ้วนของพริกไทยพื้นเมือง มีการอนุรักษ์และขยายพันธุ์ ด้วยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช เพิ่มจำนวนต้นกล้าพริกไทยพันธุ์ดีอย่างรวดเร็วมีคุณภาพ อนุรักษ์สายพันธุ์แท้ และขยายผลผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการในอนาคต” นพ.ยงยศ กล่าว

อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์ฯ กล่าวอีกว่า โครงการศึกษาและอนุรักษ์พันธุ์พริกไทยพื้นเมืองของไทยด้วยเทคนิคชีวโมเลกุล เพื่อพัฒนาไปสู่พืชเศรษฐกิจทางการแพทย์ ใช้เวลาในการดำเนินงาน 2 ปี (พ.ศ.2567-2568) ทำให้ได้มาซึ่งฐานข้อมูลความสัมพันธ์ของข้อมูลพันธุกรรมสารสำคัญ และแหล่งสมุนไพรที่มีคุณภาพของพริกไทยพันธุ์พื้นเมืองในประเทศ รวมทั้งฐานข้อมูลทางพันธุกรรมของพริกไทยพันธุ์พื้นเมืองของประเทศ ซึ่งจะช่วยให้เรามีความมั่นคงทางด้านสมุนไพร และเพิ่มมูลค่าทางการค้า ของพริกไทยพื้นเมืองไทย

“วันนี้จึงนับเป็นก้าวสำคัญในการส่งมอบต้นกล้าพริกไทยพันธุ์ปะเหลียนจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ยืนยันถึงความสำเร็จในการนำวิทยาการสมัยใหม่มาใช้ในการขยายพันธุ์พืชอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มั่นใจได้ว่า เราจะมีต้นกล้าที่มีคุณภาพดี เพื่อนำไปส่งเสริมการเพาะปลูกในพื้นที่ พัฒนาพริกไทยพันธุ์ปะเหลียนให้เป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ และเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้กับเกษตรกรใน จ.ตรัง สามารถรักษาอัตลักษณ์ของพริกไทยพันธุ์ปะเหลียนดั้งเดิมไว้ได้ และเป็นแบบอย่างในการอนุรักษ์และพัฒนาสมุนไพรพื้นเมืองของไทยต่อไป และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการผลักดันพริกไทยพันธุ์ปะเหลียนให้เป็นที่รู้จักและสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติอย่างยั่งยืน”
นพ.ยงยศ กล่าว

ที่มาข่าว : มติชนออนไลน์