ธกส. พร้อมปล่อยสินเชื่อคู่ขนานพยุงราคาข้าวรวมกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี 2 หมื่นล้านบาท ไม่มีดอกเบี้ย รองรับปริมาณข้าวเปลือก 2 ล้านตัน, สินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวบวกกับสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2564/65 วงเงินรวม 1.5 หมื่นล้านบาท ดอกเบี้ย 1%
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรบวกกับสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ให้ข่าวว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2564 บวกกับมติคณะกรรมการ ธ.ก.ส. เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2564 เห็นชอบให้ ธ.ก.ส. ดำเนินโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2564/65 เพื่อให้เกษตรกรมีเงินทุนหมุนเวียนระหว่างชะลอการขายข้าว ไม่ต้องเร่งขายข้าวเปลือกในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมากบวกกับราคาตกต่ำ ซึ่งพูดได้ว่าเป็นมาตรการคู่ขนานกับการประกันรายได้ เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว
สินเชื่อคู่ขนานพยุงราคาข้าว ของ ธกส. สมัครเลย
โดยวงเงินสินเชื่อรวม 20,401 ล้านบาท ไม่คิดดอกเบี้ยกับเกษตรกร ตั้งเป้าดูดซับปริมาณข้าวเปลือก 2 ล้านตัน ประกอบด้วย ชนิดข้าวเปลือกหอมมะลิในเขต 23 ได้แก่ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 บวกกับภาคเหนือ 3 (เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา) ข้าวเปลือกหอมมะลินอกเขต 23 ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกปทุมธานี 1 บวกกับข้าวเปลือกเหนียว
สำหรับคุณสมบัติข้าวเปลือกที่เข้าร่วมโครงการ ต้องเป็นข้าวเปลือกที่มีความชื้นไม่เกินร้อยละ 15 สิ่งเจือปนไม่เกินร้อยละ 2 บวกกับสีได้ต้นข้าวไม่ต่ำกว่า 20 กรัม โดยในส่วนข้าวหอมมะลิจะมีเมล็ดข้าวแดงได้ไม่เกินร้อยละ 0.5 (ไม่เกิน 22 เมล็ดใน 100 กรัม) กำหนดวงเงินสินเชื่อต่อตัน ดังนี้
ข้าวเปลือกหอมมะลิในเขต 23 11,000 บาท/ตัน ข้าวหอมมะลินอกเขต 23 9,500 บาท/ตัน ข้าวเจ้า 5,400 บาท/ตัน ข้าวหอมปทุมธานี 1 7,300 บาท/ตัน บวกกับข้าวเหนียว 8,600 บาท/ตัน โดยเกษตรกร กู้ได้รายละไม่เกิน 300,000 บาท สหกรณ์การเกษตรบวกกับชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งละไม่เกิน 300 ล้านบาท กลุ่มเกษตรกรแห่งละไม่เกิน 20 ล้านบาท บวกกับวิสาหกิจชุมชนแห่งละไม่เกิน 5 ล้านบาท
กรณีชำระคืนภายใน 5 เดือน ไม่มีดอกเบี้ย (รัฐบาลรับภาระจ่ายแทน) นอกจากนี้ยังมีการช่วยเหลือค่าฝากเก็บบวกกับรักษาคุณภาพข้าวเปลือกหลักประกัน 1,500 บาทต่อตัน กรณีเกษตรกรเก็บข้าวเอง ได้รับ 1,500 บาทต่อตัน กรณีเกษตรกรฝากข้าวกับสถาบันเกษตรกร เกษตรกรจะได้รับ 500 บาทต่อตัน บวกกับสถาบันฯจะได้รับ 1,000 บาทต่อตัน ระยะเวลาจัดทำสัญญาตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 กรณีภาคใต้ ตั้งแต่เดือนมีนาคม ถึง 31 กรกฎาคม 2565
บวกกับนอกจากนี้ ยังมีสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวบวกกับสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2564/65 วงเงินสินเชื่อรวม 15,000 ล้านบาท สำหรับสหกรณ์การเกษตร ชุมนุมสหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน บวกกับศูนย์ข้าวชุมชนที่ประกอบธุรกิจรวบรวมข้าวจากเกษตรกรสมาชิก เกษตรกรทั่วไป บวกกับมีคุณสมบัติตามที่กำหนดวงเงินกู้สำหรับสหกรณ์การเกษตรแห่งละไม่เกิน 300 ล้านบาท กลุ่มเกษตรกรแห่งละไม่เกิน 20 ล้านบาท บวกกับวิสาหกิจชุมชนแห่งละไม่เกิน 5 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี ซึ่งพูดได้ว่าคิดจากสถาบันฯ เพียงร้อยละ 1 ต่อปี ส่วนที่เหลือรัฐบาลรับภาระแทน ระยะเวลาจ่ายสินเชื่อ ตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 กันยายน 2565